สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมให้ปัง แบบฉบับ “สวีเดน”

15 กันยายน 2566 975

สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมให้ปัง แบบฉบับ “สวีเดน” 


🎧 ถ้าพูดถึงสตาร์ทอัพใน “ประเทศสวีเดน” หลายคนคงจะนึกถึงสตาร์ทอัพด้านดนตรีเป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นถิ่นกำเนิดของบริการมิวสิกสตรีมมิ่ง (Music Streaming) หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Spotify ที่เป็นเจ้าตลาดแพลตฟอร์มดนตรีระดับโลก หรือ SoundCloud ซึ่งเป็น Streaming ที่มี Collection จากศิลปินให้เลือกฟังมากมาย จนถูกกล่าวขานว่าเป็นดินแดนแห่ง MusicTech  

แต่ความสำเร็จเพียงแค่นี้ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ เพราะสวีเดนยังคงเดินหน้าพัฒนาสตาร์ทอัพด้านอื่นๆ ต่อไป จนเป็นประเทศที่มีความสามารถทางนวัตกรรมอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปี 2022 สวีเดนได้รับการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index: GII) อยู่อันดับที่ 3 ของโลก กลายเป็นประเทศที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมดีเป็นอันดับต้นๆ ในแทบทุกด้าน ภายใต้มุมมองที่เชื่อว่า “คน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ 

ซึ่งบทเรียนสำคัญครั้งใหญ่ที่ทำให้สวีเดนเข้าใจถึงความสำคัญของคนเกิดจากเหตุการณ์ “การย้ายถิ่นฐานของประชากร” ช่วงศตวรรษที่ 19 ทำให้สวีเดนสูญเสียประชากรไปถึง 1 ใน 5 ในเวลานั้น ภาครัฐที่เห็นผลกระทบจึงเข้ามาสำรวจหาสาเหตุอย่างจริงจัง จนพบว่ามาจากปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงได้แก้ปัญหาด้วยการพัฒนา “รัฐสวัสดิการ” มาอย่างต่อเนื่อง จนสวีเดนขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีรัฐสวัสดิการดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 

โดยเฉพาะ “ภาคการศึกษา” ที่สามารถกระจายเข้าถึงทุกพื้นที่ มีการจัดตั้งนโยบายเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี รวมถึงทุนการศึกษาที่มอบโอกาสอย่างเปิดกว้าง โดยปีที่ผ่านมารัฐบาลสวีเดนยังได้เสนองบประมาณ เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาสูงถึง 94,000 ล้านโครนาสวีเดน และในระดับอุดมศึกษาภาครัฐยังได้ส่งเสริมคุณภาพการเรียนการสอนและการวิจัยให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพ สอดคล้องไปกับการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมที่สวีเดนสามารถคว้าอันดับ ปัจจัยด้านทุนมนุษย์และงานวิจัย (Human capital and research) อยู่อันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งมีการลงทุนด้านงบประมาณการศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการมีจำนวนนักเรียนที่เข้าสู่ระบบการศึกษามากที่สุด

และไม่ได้แค่สร้างคนให้พร้อม แต่การจะพัฒนาระบบนวัตกรรมให้มีคุณภาพ สวีเดนดูแลไปถึง “โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี” เพราะพวกเขามองว่าสิ่งนี้คือประตูสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งได้ดำเนินการอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 1990 โดยที่ภาครัฐมีนโยบายลดหย่อนหรือผ่อนปรนภาษีให้กับประชาชนที่ซื้อคอมพิวเตอร์ เพื่อส่งเสริมให้ทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสำหรับศึกษางาน และต่อด้วยการลงทุนระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาตั้งแต่ตอนนั้น จนปัจจุบันประชากรกว่า 95% สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั้งหมด

นอกจากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและการขนส่งที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน อย่างการมีนโยบาย Vision Zero ที่มีเป้าหมายเพื่อให้การเดินทางบนท้องถนนมีความปลอดภัย หรือหากแม้จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็ต้องทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด 

จนเป็นที่มาของ National Transport Plan ที่ครอบคลุมงบประมาณรวม 799 พันล้านโครนาสวีเดน เพื่อลงทุนในการบำรุงรักษาถนน ทางรถไฟ อำนวยความสะดวกให้การเดินทางของผู้คนและการขนส่ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ จึงทำให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีอันดับปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ดีเป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน 

ที่สำคัญสวีเดนยังเปิดทางให้ประชาชนมีโอกาสสร้างธุรกิจหรือนวัตกรรม โดยมีกฎหมายที่อนุญาตให้พนักงานสามารถลางานได้นานถึง 6 เดือนเพื่อออกไปสร้างธุรกิจ และภาครัฐยังเปิดโอกาสให้สิทธิ์บริษัทเอกชนสามารถเข้ามาแข่งขันสร้างบริการสาธารณะที่เคยถูกผูกขาดจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายไฟฟ้า โทรศัพท์ รถไฟ บริการการบินภายในประเทศ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้ง Innovation offices ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลงานวิจัยที่ให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมหรือธุรกิจขึ้นมาได้

ทั้งหมดทั้งมวลที่สวีเดนได้ดำเนินการก็เพื่อเป้าหมายในการสร้าง “ระบบนิเวศนวัตกรรม” ให้แข็งแกร่งทุกด้าน ทำให้จากประเทศแห่ง MusicTech ได้กลายเป็นประเทศที่ไม่ว่าจะปั้นสตาร์ทอัพ หรือผลิตสินค้าประเภทใดออกมาก็โด่งดังมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่น IKEA ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก H&M แบรนด์เสื้อที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนด้วยแนวคิดที่อยากให้ทุกคนเข้าถึง หรืออย่าง AstraZeneca บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดน-อังกฤษ ที่ไม่เพียงแค่ผลิตวัคซีน แต่ยังมีการผลิตยารักษาโรคสำคัญๆ อย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และกลุ่มโรคหายาก 

จากบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้สวีเดนเห็นความสำคัญของ “คน” ที่ถือเป็นปัจจัยหลักในการสร้างเศรษฐกิจ จึงนำมาสู่การต่อยอดนโยบายดีๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมาได้ จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าในอนาคตผู้คนในประเทศอยากสร้างธุรกิจของตัวเองแบบไหน สวีเดนก็มีพื้นที่ให้ธุรกิจเหล่านั้นได้เติบโตอย่างแน่นอน

อ้างอิงข้อมูลจาก : 
https://www.wipo.int/edocs/pubdocs/en/wipo_pub_2000_2022/se.pdf 
https://thaiembassy.se/th/การศึกษา/ 
https://marketeeronline.co/archives/6894 
https://techsauce.co/tech-and-biz/3-factors-bring-sweden-be-a-global-startup-source 
https://www.longtunman.com/17168 
https://www.youtube.com/watch?v=Sj6LLcWQUFM 
https://www.the101.world/vilhelm-moberg/ 
https://brandinside.asia/right-to-leave-for-entrepreneurs-sweden/ 
https://thaiembassy.se/th /ข้อมูลเกี่ยวกับสวีเดน/