สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

Public-Private Partnership in Mental Healthcare ระบบบริการสุขภาพจิตโดยรัฐและเอกชน

24 กุมภาพันธ์ 2566 2,030

Public-Private Partnership in Mental Healthcare ระบบบริการสุขภาพจิตโดยรัฐและเอกชน

Public-PrivatePartnershipinMentalHealthcare

 

Public-Private Partnership in Mental Healthcare ระบบบริการสุขภาพจิตโดยรัฐและเอกชน

10 เทรนด์อนาคตสุขภาพจิตที่คนไทยต้องเผชิญในอีก 10 ปีข้างหน้า

จับตามองความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพจิตและเศรษฐกิจในอนาคต...เมื่อระบบบริการสุขภาพจิตโดยรัฐและเอกชนส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยรวมของคนในประเทศ!

 

ในช่วงที่ผ่านมา ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนนั้นมีความสำคัญมากขึ้นในด้านการดูแลสุขภาพจิต การช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตสามารถทำได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นหากภาครัฐและภาคธุรกิจทำงานร่วมกัน การแบ่งปันทรัพยากรและความรู้เป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งรวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และหน่วยงานที่แสวงหาผลกำไร การส่งเสริมการดูแลรักษาด้านสุขภาพจิตนั้นไม่ได้เกิดจากการเพิ่มการเข้าถึงบริการ การเพิ่มคุณภาพการดูแล หรือลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งเสริมการดูแลสุขภาพจิต เพิ่มบริการให้กับผู้ป่วยและครอบครัว และลดการตีตราความเจ็บป่วยทางจิตเวช ได้ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

 

ความร่วมมือด้านสุขภาพจิตนั้น สามารถทำได้ทั้งด้านวิชาการ การศึกษาวิจัย การส่งเสริมป้องกัน และการบำบัดรักษา ความร่วมมือนั้นสามารถเป็นทั้งการแบ่งปันองค์ความรู้ แบ่งปันทรัพยากร หรือแบ่งปันเครือข่ายความร่วมมือที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านสุขภาพจิตที่ขยายไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ความร่วมมือในด้านวิชาการอนาคตศึกษาด้านสุขภาพจิต ที่เกิดจากความร่วมมือของ 4 องค์กร ได้แก่ กรมสุขภาพจิต สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ซึ่งทั้งสี่หน่วยงานนี้มีที่มาที่แตกต่างกัน มีเป้าหมายและพันธกิจหลักที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งสี่หน่วยงานมีความสนใจในการศึกษาฉากทัศน์อนาคตด้านสุขภาพจิตของไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า จึงเกิดความร่วมมือด้านวิชาการสุขภาพจิตขึ้นเพื่อมุ่งเป้านำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพจิตและทัศนคติของสังคมไทยต่อเรื่องการให้ความสำคัญต่อการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพจิตเพื่อมุ่งสู่อนาคต

 

ภาครัฐและเอกชนนั้นสามารถทำอะไรร่วมกันได้อีกมากมายเพื่อพัฒนาการรักษาสุขภาพจิตและลดการตีตราสังคมที่ยังคงมีอยู่รอบตัวของผู้ที่เจ็บป่วยทางจิต ชีวิตของผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตจะดีขึ้นได้อย่างมากด้วยความร่วมมือและความร่วมมือที่ถูกต้อง และร่วมกันพัฒนาวิธีการในการจัดการด้านสุขภาพจิตแบบองค์รวมและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านสุขภาพจิตจากการรวบรวมทรัพยากรจากภาครัฐและเอกชนเข้ามาประสานไว้ด้วยกัน