สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

เมืองออกแบบได้ "Play Space Web" พื้นที่เมืองรูปแบบใหม่ เพื่อการเล่นที่ไร้ขีดจำกัด

บทความ 21 เมษายน 2564 2,243

เมืองออกแบบได้ "Play Space Web" พื้นที่เมืองรูปแบบใหม่ เพื่อการเล่นที่ไร้ขีดจำกัด


“เด็กคืออนาคตของชาติ” คำนี้คงเป็นคำที่ทุกคนคุ้นหูอยู่ไม่น้อย เราทุกคนต่างปฎิเสธไม่ได้ว่าเหล่าเยาวชนนั้นคือกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลคุณภาพนั้นต้องอาศัยปัจจัยในหลายด้าน ทั้งครอบครัว การศึกษา และหนึ่งสิ่งที่ส่งผลไม่แพ้กันก็คือบริบทพื้นที่อาศัยและสภาวะแวดล้อมในการเจริญเติบโต จึงปฎิเสธไม่ได้ว่า “เมือง” คือปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเด็กในแต่ละพื้นที่นั้น ๆ

จากบทความของ Wim Seghers ที่ปรึกษาด้านพื้นที่เล่นของเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม กล่าวไว้ว่าพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ กำลังจะต้องเปลี่ยน โดยทั่วไปตามเมืองต่าง ๆ จะมีพื้นที่เด็กเล่นกระจายอยู่ตามแต่ละเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ที่เด็กสามารถเคลื่อนไหวและเล่นอย่างอิสระ พวกเขาสามารถปลดปล่อยจินตนาการ ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก และเริ่มรู้จักการมีสังคมครั้งแรกในชีวิตด้วยการเล่นเป็นกลุ่มกับเพื่อน ๆในละแวกบ้าน แต่ในปัจจุบันพื้นที่เหล่านั้นดูเหมือนจะได้รับความนิยมจากเด็กน้อยลง ไม่ใช่เพราะความสนุกนั้นน้อยลงแต่เป็นเพราะปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน รวมถึงมลพิษที่มีผลมาจากความหนาแน่นของจราจร บวกกับสภาวะฝุ่นละอองในอากาศ เด็กจึงเหมือนถูกยึดพื้นที่ที่เคยเป็นของพวกเค้าคืนไปโดยปริยาย

Aldo Van Eyck สถาปนิกชาวดัตช์กล่าวไว้ว่า “เมืองที่ไม่ได้มีไว้สำหรับเด็ก ๆ นั้นไม่ได้มีไว้สำหรับพลเมืองเช่นกัน” ในสมัยก่อนผู้ออกแบบเมืองมักจะกล่าวว่าเด็กสามารถเล่นได้ทุกที่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สะท้อนสัญชาตญาณในการเรียนรู้โลกของพวกเขา เด็กจำเป็นจะต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้และการทดลอง แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราจัดสรรพื้นที่โดยเฉพาะให้กับพวกเขาได้ปลดปล่อยการเล่นอย่างเต็มที่ภายใต้การเล่นที่ถูกควบคุมปลอดภัย

เมืองที่เป็นมิตรกับเด็กคืออะไร ? คำถามนี้ถ้าเป็นในอดีตอาจจะได้รับการตอบคำถามว่าการจัดสรรพื้นที่ไว้ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง แต่ถ้าเป็นในปัจจุบันที่เกิดปัญหามลภาวะที่เด็กไม่สามารถออกมาเล่นภายนอกได้กลายเป็นว่าเด็กจะต้องดิ้นรนที่จะออกไปเล่นในพื้นที่ที่เคยเป็นของพวกเขา เราจะให้คำจำกัดความกับคำว่า “เมืองที่เป็นมิตร” เปลี่ยนไปอย่างไร ?

เทศบาลในเบลเยี่ยมพยายามอย่างมากในการให้คำจำกัดความเมืองของตนว่า “เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับครอบครัว” แต่หารู้ไม่ว่าภูมิทัศน์ปัจจุบันมีความเป็นมิตรกับเด็กเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ทุกวันนี้มุ่งเพียงแต่การแก้ไขปัญหาความคล่องตัวบนท้องถนนเสียมากกว่า

จากปัญหาเหล่านี้จึงเป็นที่มาของโครงการที่นำมาซึ่งการแก้ปัญหา นั่นก็คือโครงการที่ชื่อว่า "Play Space Web" ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากเด็กที่ออกมาเล่นนอกบ้านต้องเผชิญกับปัญหาทางมลพิษ หนำซ้ำยังเกิดอุบัติเหตุการจราจรที่นับวันมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น กลายเป็นเด็กจำนวนมากถูกบังคับให้เล่นในพื้นที่ของเมืองที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตราย

Play Space Web เป็นเครือข่ายของเส้นทางการปั่นจักรยานและเส้นทางเดินที่ไม่มีรถยนต์หรือมีการจราจรน้อยซึ่งเชื่อมต่อกับสนามเด็กเล่นที่แตกต่างกันซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า "แรงกระตุ้นในการเล่น" โดยแรงกระตุ้นในการเล่นคืออุปกรณ์ช่วยเดินหรือปีนเขา อาจมีรูปร่างเหมือนท่อนไม้หรือก้อนหิน แต่จุดประสงค์พื้นฐานคือ เพื่อเชิญชวนและกระตุ้นการเล่น เด็กที่เล่นในสนามเด็กเล่นมีอิสระที่จะพบปะกับเด็กคนอื่นและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเสี่ยงกับการจราจรโดยรอบ ความสวยงามของ Play Space Web คือการถ่ายทอดชีวิตใหม่ให้กับถนนปลอดรถยนต์ในเมือง ไม่เพียงจะเป็นพื้นที่สำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ก็ได้รับประโยชน์เช่นกันจึงส่งผลให้ผู้คนมีส่วนร่วมทางสังคมมากขึ้น โดยผังการวางเส้นทางสัญจรได้แผ่ขยายออกไปผ่านทุกซอกมุมของชุมชน ผู้คนจะเพลิดเพลินไปกับถนนที่ไม่ได้กำหนดทิศทางหรือจุดประสงค์ในการเดินทาง สิ่งนี้ก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันทางสังคม ความรับผิดชอบและความไว้วางใจที่ดีขึ้น ตลอดจนเพิ่มทางเลือกกิจกรรมยามว่างของคนในชุมชน ผลลัพธ์เหล่านี้ยังส่งผลดีต่อความปลอดภัยบนท้องถนนอีกด้วย ผู้ขับขี่รถยนต์มีแนวโน้มที่จะปรับรูปแบบการขับขี่และความเร็วเมื่อพวกเขาตระหนักว่าเมืองของตนเป็นเมืองที่จะมีเด็กเล่นอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง

ทำไมต้องใช้ Play Space Web ? จุดแข็งอย่างหนึ่งของเมืองคือทุกอย่างอยู่ใกล้ คุณไม่จำเป็นต้องมีรถเพื่อไปซื้อนมกล่อง ไปส่งลูกที่โรงเรียน ไปโรงละครหรือออกไปสังสรรค์ ดังนั้น เมืองที่ "ดี" ตามความหมายคือเมืองที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่เข้าด้วยกันด้วยทางสัญจรสาธารณะ สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใหญ่รวมถึงเด็กและเยาวชนเช่นกัน Play Space Web ใช้ข้อมูลทางภูมิศาสตร์เพื่อค้นหาพื้นที่ที่เด็ก ๆ สามารถไปโรงเรียนได้เองและหาเพื่อนใหม่ เพลิดเพลินไปกับการเดินทางแห่งการค้นพบกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างทาง เหนือสิ่งอื่นใดมันทำให้เห็นเส้นแบ่งระหว่างกิจกรรมเหล่านี้เพื่อให้เด็กสามารถเคลื่อนไหวไปมาระหว่างกิจกรรมเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล นั่นคือความแตกต่างระหว่าง Play Space Web ที่เด็กสามารถผจญภัยอย่างอิสระกับการเล่นแบบเดิม ๆ ที่มีพื้นที่อย่างจำกัด

Van Eyck กล่าวไว้ว่า“ ถ้าวัยเด็กคือการเดินทางให้เราดูว่าเด็กไม่ได้เดินทางตอนกลางคืน” เป้าหมายสูงสุดของ Play Space Web คือการให้ประสบการณ์ใหม่ในการเล่นของเด็ก ๆ ในเมือง พวกเขาจะมีพื้นที่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเส้นทางในการเดินทาง พบปะเพื่อนใหม่ และทำกิจกรรมในจุดต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองสามารถวางใจในเรื่องของความปลอดภัยจากอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังช่วยฝึกความรับผิดชอบในฐานะผู้ใช้งานพื้นที่สาธารณะและเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่อย่างยั่งยืน

ปัจจุบันสภาวะแวดล้อมในสังคมได้เปลี่ยนไปจากอดีต บริบทเมืองย่อมต้องปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลง การมอบพื้นที่สาธารณะสำหรับเด็กที่เปรียบเสมือนเมล็ดพันธ์ที่เติบโตไปเป็นแรงผลักดันสำคัญของสังคม เป็นสิ่งที่จะสามารถส่งเสริมสภาวะแวดล้อมเพื่อศักยภาพการเจริญเติบโตของเด็กอย่างสูงสุด