สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

The Future of Payments 7 เทรนด์การจ่ายเงินที่เปลี่ยนไป

22 เมษายน 2568 120

The Future of Payments 7 เทรนด์การจ่ายเงินที่เปลี่ยนไป

💸 ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ปัจจัยเหล่านี้กำลังกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการชำระเงิน (Payment) ทั่วโลกอยู่ในจุดที่ไม่เหมือนเดิม

ภายใน 5 ปีข้างหน้า รูปแบบการจ่ายเงินที่ทุกคนรู้จักจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เปิด 7 เทรนด์การจ่ายเงินที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดย ‘Mastercard Signals’ ซึ่งได้มีการเปรียบเปรยกับการแข่งรถที่ความเร็วจะเป็นตัวกำหนดชัยชนะ จะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง NIA สรุปมาให้แล้ว!

🌐 การเชื่อมต่อระบบการชำระเงินทั่วโลก (Seamless Global Payments)
การชำระเงินจะสามารถดำเนินการข้ามแพลตฟอร์ม สกุลเงิน และประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ - ปัจจุบันระบบการชำระเงินระหว่างประเทศยังคงกระจัดกระจายและเต็มไปด้วยข้อจำกัด ส่งผลให้การจ่ายเงินข้ามพรมแดนยังคงมีอุปสรรค จึงต้องทำให้เกิดการร่วมมือกันอย่างแท้จริง (True Interoperability) โดยผู้ให้บริการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมาย การลดความซับซ้อนของระบบ และการพัฒนาระบบความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อผลักดันนวัตกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศ ที่จะช่วยยกระดับการบูรณาการทางการเงินให้ดีขึ้นไปอีกขั้น

👁 การยืนยันตัวตนแห่งอนาคต
เทคโนโลยีอย่าง Digital ID, CBDC และระบบชำระเงินทันทีจะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจ ด้วยความก้าวหน้าของ Biometrics และการตรวจสอบความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้การยืนยันตัวตนทุกวันนี้ มีการพัฒนาให้แม่นยำและปลอดภัยมากขึ้นสำหรับการทำธุรกรรม  เพื่อการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่อยากล็อกอินด้วยการกรอกรหัส โดยการพัฒนาระบบยืนยันตัวตนนี้ยังต่อยอดไปยังภาคส่วนอื่นๆ ทั้งบริการทางการแพทย์ การเดินทางข้ามประเทศ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใช้สร้างความปลอดภัยในการซื้อขายออนไลน์

🤖 ระบบความปลอดภัยที่มีการอัปเกรด ‘Data Intelligence & AI’ ในระบบการชำระเงิน
บทบาทของ AI ที่มีผลอย่างยิ่งต่อการจ่ายเงิน คือการเข้ามาทำให้กระบวนการต่างๆ มีความรวดเร็วและปลอดภัยอย่างทวีคูณ ซึ่งสามารถใช้ในการตรวจจับความผิดปกติได้แบบเรียลไทม์ และยังมี Machine Learning ที่จะทำให้ AI สามารถปรับตัวตามกลโกงที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  รวมไปถึงการแบ่งปันข้อมูลของภัยคุกคามของแต่ละหน่วยงาน และการเรียนรู้แบบรวมศูนย์กลาง ที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาระบบป้องภัยที่มีศักยภาพยิ่งกว่าเดิมได้อย่างรวดเร็ว

👝 กระเป๋าเงินดิจิทัลกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ
Digital Wallet จะไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือสำหรับการใช้จ่ายและสะสมแต้มแบบที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ในอนาคตจะถูกพัฒนาให้กลายเป็นผู้ช่วยที่เข้าใจไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของผู้ใช้มากที่สุด โดยจะมีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการจัดการที่ครอบคลุม โดยเฉพาะการวางแผนทางการเงิน ที่จะช่วยให้ผู้ใช้กำหนดวงเงินการใช้จ่ายสำหรับหมวดหมู่เฉพาะ และหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเกินตัวได้ 

📲 แตะ-จ่าย ไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าการจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์ทุกวันนี้จะมีความสะดวกรวดเร็วขึ้นมาก แต่ในอนาคตก็มีทิศทางว่าการจ่ายเงินจะต้องถูกพัฒนาให้เร็วขึ้นอีกระดับ โดยสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันที่รวดเร็วก็คือ การที่ Apple ได้เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง NFC ใน iOS 18.1 1 ซึ่งจะทำให้เกิดรูปแบบการจ่ายเงินด้วยมือถือโดยการแตะจ่ายมีความสะดวก ปลอดภัย ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น 

📤 ระบบการชำระเงินสำหรับภาคธุรกิจ 
เทรนด์การจ่ายเงินแห่งอนาคตจะไม่ได้มีแค่บริการสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่จะต้องถูกพัฒนาให้สามารถนำไปใช้กับภาคธุรกิจได้ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ส่วนมากยังใช้การชำระเงินแบบ Manual ซึ่งในอนาคตจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็น Smart Payment ที่การจ่ายเงินจะกลายเป็นเรื่องอัตโนมัติ และเมื่อธุรกิจมีข้อมูลดิจิทัลทางการเงินที่เชื่อถือได้ ก็สามารถต่อยอดไปยังบริการอื่น ๆ เช่น บริการสินเชื่อที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีประสิทธิภาพได้

🤝 เกิดความร่วมมือระหว่างผู้เล่นที่หลากหลาย 
จะไม่ได้มีแค่ธนาคารเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงิน เพราะการพัฒนาสิ่งนี้ต้องมีความร่วมมือจากภาครัฐ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นักพัฒนาที่จะต้องพูดคุย หารือ เร่งสร้างความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประสบการณ์การจ่ายเงินที่ดีให้กับผู้ใช้งานทั่วไปและภาคธุรกิจ ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย คือการมีโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่เปิดกว้างให้ผู้ให้บริการ e-payment ได้เข้ามาร่วมแข่งขันในระบบนิเวศ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น 

👍🏻 การขับเคลื่อนด้าน e-Payment รวมถึงศักยภาพของ FinTech ยังมีอีกหลายองค์ความรู้ที่ FinTech Startup หรือผู้ที่สนใจด้านนวัตกรรมการเงินไม่ควรพลาด กับงานมหกรรมฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียครั้งที่สอง “Money 20/20 Asia 2025” ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นปีที่สอง ในปีนี้มีไฮไลต์ที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสวนาของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงินกว่า 250 คน รวมไปถึงกิจกรรม Demo Day เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพได้เข้าถึงการสนับสนุนจาก VC ระดับโลก เช่น  Venture Spark หนึ่งในเครือข่ายความร่วมมือของ NIA

👉🏻 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของงาน Money 20/20 Asia 2025 ได้ที่ https://asia.money2020.com/ 

อ้างอิงข้อมูลจาก:
https://www.mastercard.com/news/insights/mastercard-signals/2024/Racing-towards-the-future-of-payments/ 
https://stripe.com/th/resources/more/the-payment-industry-ecosystem-explained
https://talkatalka.com/blog/what-is-digital-wallet/
https://droidsans.com/apple-allow-third-party-developer-to-use-nfc/
https://droidsans.com/apple-allow-third-party-developer-to-use-nfc/
https://www.bot.or.th/th/financial-innovation/digital-finance/digital-payment/promptbiz.html