จะเป็นอย่างไรหากโลกนี้ไม่มีเทคโนโลยี ? มนุษย์ก็คงดำรงชีวิตด้วยการจุดไฟ ล่าสัตว์ เหมือนยุคหิน ไม่มีอุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร ไม่มีการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ ที่ทำให้สะดวกสบายขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ และความก้าวหน้าของโลกเป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้าง “นวัตกรรม” เช่นกัน เทคโนโลยีนับเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้นวัตกรรมประสบความสำเร็จ 

โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักอย่าง “ARI Tech” ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามอง และเป็นเทรนด์มาแรงในช่วงหลายปีนี้ รายการ #NIAnatomy Episode ที่ 4 จึงพาทุกคนมาพูดคุยกับ “คุณไนซ์ สุทธิรักษ์ ดวงบุรงค์” นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ ผู้ดูแลหลากหลายโครงการด้าน ARI Tech จาก NIA ว่า เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างไรถึงสามารถเข้ามาช่วยเติมทุกโอกาสทางธุรกิจได้ รวมถึงในประเทศไทยมีความเคลื่อนไหวด้าน ARI Tech มากน้อยแค่ไหน วันนี้มีคำตอบ! 

🎧 ฟังเรื่องราวแบบเต็มๆ ได้ที่ https://soundcloud.com/niathailand/ep4-nianatomy-podcast

เมื่อพูดถึง ARI Tech (AI, Robotics, Immersive & IoT) เห็นแค่ชื่ออาจทำให้คิดว่าเป็นเทคโนโลยีที่ไกลตัวหรือเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่จริงๆ แล้ว ARI Tech ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เช่น โซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราใช้นั้น มีการนำ AI เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับบริการที่ตรงใจที่สุด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ตอนนี้ก็หันมาใช้เทคโนโลยี IoT กันแทบทุกแบรนด์ รวมถึง Metaverse ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็เป็นอีกนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีด้าน Immersive ซึ่งทั้งหมดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ARI Tech ทั้งสิ้น

จึงไม่แปลกเลยที่เทคโนโลยีในกลุ่มนี้จะกลายเป็นกลุ่มเทคโนโลยีเนื้อหอมที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ และทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างนำเทคโนโลยีนี้มาปรับใช้ในธุรกิจของตัวเอง ซึ่งทุกคนเชื่อไหมว่าปัจจุบัน  ARI Tech นั้นมีมูลค่าตลาดสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากและมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นอีกในอนาคต

สำหรับในประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้า จากการที่ NIA ได้ร่วมทำงานกับผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมมาหลายปี พบว่าสตาร์ทอัพไทยด้าน ARI Tech มีความพร้อมทั้งบุคลากรที่โดยส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา และโดดเด่นในด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แม้จะมีจำนวนไม่มาก ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จาก Ecosystem ทั้งหมด 

แต่เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพที่อยู่เบื้องหลังในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ด้านการเกษตร การแพทย์ อาหาร ฯลฯ และมีสตาร์ทอัพที่โลดแล่นในเวทีนานาชาติมาแล้ว เช่น HG Robotics สตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญการพัฒนานวัตกรรมด้านหุ่นยนต์  โดย NIA เชื่อว่าศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยด้าน ARI Tech ก็ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพราะเทคโนโลยีในกลุ่มนี้เป็นโอกาสสำหรับคนทำนวัตกรรม

เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตทั้งมิติทางเศรษฐกิจและสร้างความโดดเด่นในภูมิภาคไปจนถึงระดับโลก NIA จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม โดยเฉพาะด้าน ARI Tech ทั้งเรื่องเงินทุน และการเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ ที่เป็นข้อจำกัดของสตาร์ทอัพในปัจจุบันที่ต่างคนต่างทำงานในพื้นที่ของตัวเอง ให้มีการทำงานร่วมกันมากขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เช่น Thematic Innovation ประจำปี 2565 นี้ก็มีการกำหนดธีมนวัตกรรมสาขาทางด้าน ARI Tech อย่างชัดเจน ไปจนถึงการปูพื้นฐานความรู้ให้กับกลุ่มเยาวชนหรือในรั้วมหาวิทยาลัย NIA ก็ได้เตรียมโครงการด้านนี้ไว้โดยเฉพาะ คอยติดตามกันได้เร็วๆ นี้ 

และไม่ใช่แค่โครงการให้ทุนหรือให้ความรู้เท่านั้น NIA ยังมีการส่งเสริมนวัตกรรมในเชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นย่านนวัตกรรมอารีย์และย่านนวัตกรรมปุณณวิถี ที่มีการนำนวัตกรรมด้าน ARI Tech มาพัฒนาย่านตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพของย่านในหลายมิติ ซึ่งจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนพัฒนานวัตกรรมด้าน ARI Tech จนเกิดเป็นพื้นที่นวัตกรรมนั้น เป็นประโยชน์อย่างมากเพราะส่งผลให้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้เกิดอัตราการจ้างงานมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน