🧑‍🦳 เมื่อทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย ประเทศไทยเองก็ไม่อาจหลุดพ้นจากกับดักนี้ได้เช่นกัน

จากข้อมูลสถิติการรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทย ชี้ให้เห็นว่า ประเทศเราได้เข้าสู่สังคมสูงวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา โดยยังคาดการณ์ไว้อีกว่าในปี 2030 อาจเลื่อนขั้นเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดตามรอยประเทศญี่ปุ่น  จนทำให้หลายคนเริ่มตระหนักถึงผลกระทบในด้านเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น สวัสดิการทางด้านสุขภาพ และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูผู้สูงอายุที่วัยทำงานอาจจะต้องแบกรับ 

ซึ่งปัญหานี้ ภาครัฐเองก็ได้มีการเตรียมแผนในระยะยาว โดยกำหนดนโยบายผู้สูงอายุแห่งชาติไว้ตั้งแต่ปี 1982 และได้นำมาปฏิบัติอย่างจริงจังในวาระแห่งชาติเมื่อปี 2018 ภายใต้มาตรการดูแล 4 มิติ ทั้งด้านสังคม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ  รวมถึงยังได้มีแผนส่งเสริมการออมเพื่อเกษียณ สร้างหลักประกันความเสี่ยงทางด้านรายได้ และจูงใจให้ประชาชนทำประกันสุขภาพเพื่อลดภาระค่ารักษาพยาบาลในยามป่วยไข้ 

แต่ปัญหาของคนสูงวัยไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น ยังมีผลกระทบทางด้านสังคมที่ก็ถือเป็นอีกโจทย์สำคัญ ซึ่งหลายคนมักจะมองแค่ว่าต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อม หรือการขนส่งให้ปลอดภัยมีประสิทธิภาพ ตามนิยามของการสร้างเมืองเป็นมิตร แต่หากลองพิจารณาดูจริงๆ สิ่งที่ผู้สูงวัยต้องการมากกว่าสิ่งเหล่านี้ คือการที่พวกเขาจะสามารถกลับมามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การได้รับความเคารพ การดูแลเอาใจใส่จากลูกๆ หลานๆ และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและสังคม 

ภาคเอกชนที่มองเห็นถึงโอกาสในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยใช้นวัตกรรมอย่าง “YoungHappy – ยังแฮปปี้” กิจการเพื่อสังคมที่ตั้งใจสร้างคอมมูนิตี้เพื่อเปิดพื้นที่ให้แก่ผู้สูงวัยได้กลับมามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมอีกครั้ง ผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการ “Happy Learn” คลาสการเรียนการสอนออนไลน์ในแบบฉบับเข้าใจง่าย ตอบโจทย์แนวคิด “Lifelong Learning - การเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด” โดยมีเนื้อหามากมายให้เลือกเรียนตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อาหาร เทคโนโลยี หรือไลฟ์สไตล์ เช่น วิธีการทำ CPR การเป็นบาริสต้า การทำคอนเทนต์ หรือแม้แต่การเขียนโปรแกรม เป็นต้น 

นอกจากคอมมูนิตี้ในแบบออนไลน์ YoungHappy ยังมี “Event & Activity” กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยได้ออกมาพบเจอกับเพื่อนๆ วัยเดียวกัน โดยจะมีทั้งการรวมตัวกันไปทำกิจกรรมจิตอาสา การออกมาแบ่งปันความรู้ทักษะประสบการณ์เฉพาะตัว หรือกิจกรรมผ่อนคลายอย่างการรวมตัวไปชมภาพยนตร์ ท่องเที่ยว เล่นบอร์ดเกม หรือกิจกรรมท้าดวลเซียนหมากล้อม  ซึ่งเมื่อผู้สูงอายุได้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบ ได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ พูดคุยและทำกิจกรรมกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็จะช่วยให้พวกเขารู้สึกสนุกมีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้อีกครั้ง 

รวมถึงสองบริการสำหรับสมาชิก ไม่ว่าจะเป็น “Happy Deal” ดีลสุดพิเศษและส่วนลดจากแบรนด์สินค้าที่ร่วมรายการเอาใจสูงวัยสายช้อป และ “Media & Content” สื่อการเรียนรู้เข้าใจง่ายสไตล์วัยเก๋าหลากหลายรูปแบบทั้งคอนเทนต์บทความและรายการออนไลน์ผ่านช่องทางยูทูบ

เพราะแนวคิดของ YoungHappy คือการเห็นว่า ‘สุขภาพจิต’ เป็นรากเหง้าของปัญหาทั้งหมด โดยความท้าทายของประเทศไทยทุกวันนี้ คือการที่ทุกคนมองเห็นแค่ประเด็นค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของผู้สูงวัยเป็นหลัก แต่หากเราลองมองให้ลึกไปกว่านั้น ก็จะพบที่มาของค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่เกิดจากสุขภาพจิตนำไปสู่ปัญหาอื่น จึงพยายามเลือกสรรกิจกรรมทางสังคม เพื่อคลายความเหงา ลดความว่าง ช่วยให้ผู้สูงวัยกลับมารู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีจากจิตใจที่เข้มแข็งได้  

จากจุดเริ่มต้นที่อยากจะสร้าง “สังคมความสุขของคนวัยเก๋า” ต่อยอดมาสู่การร่วมสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ที่จะมาเปลี่ยนสังคมสูงวัยให้ดีขึ้นด้วยนวัตกรรม โดย YoungHappy ร่วมกับ NIA และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทำโครงการพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมเพื่อสังคมสำหรับผู้สูงอายุ ปีที่ 3 ภายใต้ชื่อโครงการ “นวัตกรรมเปลี่ยนอนาคตสูงวัย (Innovation for Aging Society) เพื่อเฟ้นหาไอเดียในการพัฒนานวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุให้มีความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดี พร้อมกับสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแนวคิดที่น่าสนใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งทีมที่ได้รับคัดเลือกในรอบสุดท้ายจะได้รับโอกาสในการขอทุนสนับสนุนจาก NIA สูงสุด 1.5 ล้านบาทอีกด้วย

และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา YoungHappy ยังได้รับรางวัล Prime Minister Award: Innovation for Global Challenge สาขา Social จากงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023 หรือ SITE 2023 ที่เพิ่งจบไปอีกด้วย  แต่ความสำเร็จที่มีคุณค่ายิ่งกว่ารางวัลที่ได้รับ ก็คือรอยยิ้มของผู้สูงวัยในคอมมูนิตี้ที่ยังแฮปปี้ รู้สึกสนุก มีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญของประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพได้

เห็นได้ชัดว่าปัญหานี้ ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยการทำงานของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องสร้างความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เป็นผลงานนวัตกรรมในมุมที่ไม่ได้มุ่งเป้าแค่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่ใช้นวัตกรรมเข้ามาเพิ่มคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุอยู่ร่วมกับคนทุกวัยในสังคมได้อย่างมีความสุขและเข้าใจกันได้มากขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://www.youtube.com/watch?v=4mN84F2_buQ&t=1395s 
https://urbancreature.co/aged-society/ 
https://resourcecenter.thaihealth.or.th/article/การเผชิญหน้า-‘สังคมผู้สูงอายุ’-โจทย์ท้าทายภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 
https://consmag.com/th/articles/207954-มาตรการสูงวัยมีคุณภาพ-4-มิติ-เศรษฐกิจ-สภาพแวดล้อม-สุขภาพ-และสังคม 
https://younghappy.com/ 
https://forbesthailand.com/people/thriving-30s/ความสุข-3-อย่างของ-ธนากร-พ