NIA จัดงาน Innovation Thailand Top Executives Meeting “Tourism Industry Innovation Ecosystem towards Innovation Nation” เชื่อมโยงความร่วมมือ สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

News 19 พฤศจิกายน 2568 9

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงาน Innovation Thailand Top Executives Meeting “Tourism Industry Innovation Ecosystem towards Innovation Nation” เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำจากทุกภาคส่วนให้เกิดการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านการสร้างความรู้จักและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนวัตกรรมระหว่างกันของผู้บริหารระดับสูงจากกว่า 30 หน่วยงาน ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศนวัตกรรมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่การแข่งขันในระดับสากล อาทิ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท โกเธอร์ จำกัด บริษัท ขาบสไตล์ จำกัด บริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท จำกัด บริษัท เลิร์นดู วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด บริษัท แอร์พอเทลส์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด บริษัท เทคมีทัวร์ จำกัด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิทยาลัยดุสิตธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประธานชมรมเกสรลำพูและผู้ดูแลศูนย์การเรียนรู้บางลำพู สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยชี้ให้เห็นว่า นวัตกรรมคือกลไกสำคัญที่จะยกระดับการท่องเที่ยวไทยท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทของธุรกิจและชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน “แม้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยจะลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนกลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ดังนั้น อนาคตของการท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย (Adventure Tourism) หรือการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) เพื่อให้คุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมหมุนเวียนกลับสู่ชุมชนอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกต่างให้ความสนใจประเทศไทย จากศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงโอกาสใหม่จากเทรนด์ Health & Wellness Tourism ที่กำลังเติบโตทั่วโลก”

NIA มีความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม “Amazing Thailand Innovation Gadget” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงบริการนวัตกรรมการเดินทางในไทยได้โดยตรง ตั้งแต่เส้นทางท่องเที่ยวชุมชน บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi ระบบจองโรงแรม ประกันภัย ไปจนถึงบริการด้าน Mobility และ Travel Service ครบวงจร ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ผู้ประกอบการไทยปรากฏสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวท่ามกลางความเสี่ยงด้านการหลอกลวงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านการเงินนวัตกรรม NIA นำเสนอ “กลไก NIA ในการสนับสนุน Low Carbon Tourism” โดยชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการปล่อยคาร์บอนกว่า 8% ของโลก ทำให้การพัฒนา Low Carbon Tourism เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการยกระดับขีดความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมและภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่ Green Destination ทาง NIA จึงขับเคลื่อนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสู่การแข่งขันระดับโลกผ่านกลไกการสนับสนุนตามแนวคิด “Groom – Grant – Growth – Global” ที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาองค์ความรู้ และหลักสูตรให้ชุมชน การออกแบบเส้นทางนำร่องและโปรเจกต์ Sandbox เชื่อมโยงผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้เชี่ยวชาญ การให้ทุนพัฒนาธุรกิจสู่เชิงพาณิชย์ ไปจนถึงสนับสนุนการตลาด เพื่อการผลักดันการเติบโตไปสู่ระดับโลกเพื่อสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำของไทยอย่างยั่งยืน

#Groom — พัฒนาความพร้อมและศักยภาพต้นน้ำ โดยเสริมความรู้และทักษะด้านนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการและชุมชน พร้อมส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

#Grant — สนับสนุนทุนให้กับสตาร์ตอัป เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการ Social Enterprise เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมถูกนำไปใช้จริง

#Growth — เร่งการเติบโตด้วยแพลตฟอร์มกลาง พร้อมแดชบอร์ดข้อมูล และกิจกรรมบ่มเพาะ เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

#Global — ขยายสู่ตลาดสากล ด้วยเครือข่ายนานาชาติและนักลงทุนต่างประเทศ ยกระดับผลงานสร้างสรรค์ให้ได้มาตรฐานโลก และผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมท่องเที่ยวเอเชีย

นางสาวมณฑา ไก่หิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น NIA นำเสนอ “บทบาท NIA ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยนวัตกรรม” โดยชี้ว่าภาคการท่องเที่ยวไทยมีนักท่องเที่ยวสะสมกว่า 27.5 ล้านคน (1 ม.ค.–9 พ.ย. 2568) เพิ่มขึ้น 7.14% จากปีก่อน พร้อมโอกาสจากระบบนิเวศ Travel Tech ที่ครอบคลุมตั้งแต่ Booking–Search, Activities–Tours, Smart Luggage, Mobility ไปจนถึง Home Sharing โดยทาง NIA ขับเคลื่อนการเติบโตผ่านยุทธศาสตร์ Groom – Grant – Growth – Global ตั้งแต่การวิเคราะห์ Innovation Map และเทรนด์เทคโนโลยีอย่าง AR/VR, AI, Blockchain และ Mobile Travel เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ (Groom) การสนับสนุนทุน Mandatory Innovation และ Localized Innovation สำหรับ Startup และ SME (Grant) ไปจนถึงการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ เช่น TAT Travel Tech Networking (Growth & Global) เพื่อผลักดันธุรกิจท่องเที่ยวไทยสู่การแข่งขันระดับโลก

นอกเหนือจากกลยุทธ์ข้างต้นแล้ว NIA ยังเดินหน้าสร้าง Thailand Innovation Hub เป็นเครือข่ายศูนย์กลางนวัตกรรมทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยสู่โอกาสการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้น 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เกษตร อาหาร การแพทย์และสุขภาพ พลังงานและสิ่งแวดล้อม และท่องเที่ยว/ซอฟต์พาวเวอร์/สังคม พร้อมต่อยอดสู่เวทีโลกผ่าน 3 โปรแกรมสำคัญ คือ Corporate Spark จับคู่ธุรกิจกับสตาร์ตอัปชั้นนำ, Global Market Link ขยายโอกาสเชื่อมโยงสู่ตลาดต่างประเทศ และ Global Investment Link เพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงนักลงทุนระดับสากล

ในช่วง Innovation Sharing ภายใต้หัวข้อ “Tourism Industry Innovation Ecosystem” เป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยวไทยระหว่างผู้บริหารจากภาครัฐ บริษัทเอกชน สถาบันการศึกษา และสมาคมต่างๆ โดยประเด็นสำคัญจะเน้นไปที่การสร้างความร่วมมือข้ามภาคส่วน การมีส่วนร่วมของชุมชน และการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ตัวอย่างได้แก่ แพลตฟอร์มชุมชนอัจฉริยะ AI แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและวัฒนธรรม และการยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล

นอกจากนี้ ยังร่วมพูดคุยถึงความท้าทายและโอกาส ทั้งการเปลี่ยนแปลงของนักท่องเที่ยว การแข่งขันจากผู้เล่นระดับโลก นโยบายภาครัฐ และการวางแผนกำลังคน พร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไข เช่น การเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นกับนักท่องเที่ยว การปรับตัวทำ Digital Transformation ของธุรกิจโรงแรม และการต่อยอดตลาด MICE เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลาย ที่นำไปสู่การเสริมสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวไทยให้พร้อมแข่งขันในระดับสากลต่อไป

#NIA #สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ #TravelTech #InnovationThailand #TopExecutivesMeeting #TourismIndustry #InnovationPartnership