สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

เปิดแผน Scale Up to Global 2026 ปักหมุด Soft Landing ให้กับ Startup ไทย ขยายตลาด สร้างเครือข่ายในระดับสากล

18 ธันวาคม 2568 98

เปิดแผน Scale Up to Global 2026 ปักหมุด Soft Landing  ให้กับ Startup ไทย ขยายตลาด สร้างเครือข่ายในระดับสากล 


🌍 การตั้งเป้าหมายสู่ระดับโลกตั้งแต่เริ่มต้นถือเป็นหัวใจสำคัญของสตาร์ตอัป เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีมุมมองแบบ Global First การวางแผนโมเดลธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้เทคโนโลยี และการวางโครงสร้างภายในองค์กรต่างๆ จะสอดคล้องและพร้อมต่อการขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้ตั้งแต่วันแรกของธุรกิจ ส่งผลให้เส้นทางสู่สากลไม่เพียงชัดเจน แต่ยังมั่นคงมากขึ้นด้วย

🔒 แต่การบุกตลาดต่างประเทศไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยังมีอุปสรรคอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ความท้าทายทางด้านกฎหมาย กลไกภาษี รวมถึงวัฒนธรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างไปในแต่ละพื้นที่ การมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งจึงกลายเป็น “ตัวเร่งสำคัญ” ที่ช่วยลดความเสี่ยง ชี้แนวทางที่เหมาะสม และทำให้สตาร์ตอัปไทยมีโอกาสยืนในตลาดต่างประเทศได้อย่างมั่นคง

🎯 ภายใต้บทบาทผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม NIA ได้วางกลไกการทำงานภายใต้กลยุทธ์ 4G มาช่วยขับเคลื่อน โดยเฉพาะกลไก Global ที่มุ่งสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการขยายตลาดของสตาร์ตอัปไทยสู่ระดับสากล ผ่าน Soft Landing Program ซึ่งช่วยลดอุปสรรคและความเสี่ยงในการเข้าสู่ตลาดใหม่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปไทยเข้าถึงระบบนิเวศนวัตกรรมในแต่ละประเทศเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

🧭 สำหรับ แผนการทำงานปี 2026 NIA ตั้งเป้าหมายมุ่งเน้นไปยัง “ตลาดเอเชีย” เป็นหลัก โดยกำหนด 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยแต่ละประเทศมีพันธมิตรสำคัญคอยสนับสนุน อย่าง HKSTP (Hong Kong Science and Technology Parks Corporation), Startup City Fukuoka และ Monsha’at ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้สตาร์ตอัปไทยสามารถ “ลงจอด เติบโต และสเกลต่อ” ในตลาดต่างประเทศได้อย่างราบรื่น

🇭🇰 ในการขยายโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ การสร้างการรับรู้ต่อผลงานนวัตกรรมก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ ดังนั้น NIA จึงมีแผนในการพาสตาร์ตอัปไทยไปร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โดยตลาดแต่ละประเทศก็จะมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่แตกต่างกัน สำหรับ “ฮ่องกง” จะเข้าร่วมในงาน Jumpstarter 2026 ในฮ่องกงซึ่งจะเน้นธุรกิจด้าน AI และความยั่งยืนเป็นหลัก ส่วน InnoEx 2026 จะมีการสนับสนุนครอบคลุมใน 5 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ AI, Robotics, Low-altitude Economy, Property Technology และ Retail Technology ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบปะผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจ

🇯🇵 ต่อมาสำหรับกิจกรรมในประเทศ “ญี่ปุ่น” จะมีกิจกรรมที่จะนำทีมสตาร์ตอัปไปเข้าร่วมในงาน SusHi Tech Tokyo 2026 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

🚀 ส่วนสุดท้ายคือประเทศในโซน “ตะวันออกกลาง” จะมีการเข้าร่วมงาน Biban 2026 เพื่อพบปะผู้เชี่ยวชาญระดับท้องถิ่นและระดับโลก แลกเปลี่ยนความรู้ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ

🧑‍💻 โดยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในแต่ละครั้งจะเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปที่ผ่านการคัดเลือกได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมใน Demo Day ซึ่งเป็นเวทีสำหรับดึงดูดนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ ธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าร่วม Workshop เพื่อเตรียมความพร้อม เพิ่มศักยภาพ และความมั่นใจก่อนไปเยือนในตลาดต่างประเทศ

🇹🇭 โปรแกรม Soft Landing ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับประเทศ เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยยกระดับการขยายโอกาสทางธุรกิจของสตาร์ตอัปไทย ผ่านการสนับสนุนของเครือข่ายพันธมิตร ทำให้การเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเป็นไปอย่างมั่นคง มีประสิทธิภาพ สำหรับสตาร์ตอัปที่สนใจ อย่าลืมติดตามการเปิดรับสมัคร เพื่อไม่พลาดโอกาสขยายตลาดไปยังต่างประเทศไ พร้อมสร้างรายได้และโอกาสเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน

อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://jumpstarter.hk/ 
https://www.hktdc.com/event/innoex/en 
https://bit.ly/4pgKT4f 
https://bibanglobal.sa/en 
https://qatar.websummit.com/startups/impact-startups/