
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

การให้บริการของ NIA

ความเคลื่อนไหวของ NIA

ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
เปิดแผน Scale Up to Global 2026 ปักหมุด Soft Landing ให้กับ Startup ไทย ขยายตลาด สร้างเครือข่ายในระดับสากล

🌍 การตั้งเป้าหมายสู่ระดับโลกตั้งแต่เริ่มต้นถือเป็นหัวใจสำคัญของสตาร์ตอัป เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีมุมมองแบบ Global First การวางแผนโมเดลธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้เทคโนโลยี และการวางโครงสร้างภายในองค์กรต่างๆ จะสอดคล้องและพร้อมต่อการขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้ตั้งแต่วันแรกของธุรกิจ ส่งผลให้เส้นทางสู่สากลไม่เพียงชัดเจน แต่ยังมั่นคงมากขึ้นด้วย
🔒 แต่การบุกตลาดต่างประเทศไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยังมีอุปสรรคอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ความท้าทายทางด้านกฎหมาย กลไกภาษี รวมถึงวัฒนธรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างไปในแต่ละพื้นที่ การมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งจึงกลายเป็น “ตัวเร่งสำคัญ” ที่ช่วยลดความเสี่ยง ชี้แนวทางที่เหมาะสม และทำให้สตาร์ตอัปไทยมีโอกาสยืนในตลาดต่างประเทศได้อย่างมั่นคง
🎯 ภายใต้บทบาทผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม NIA ได้วางกลไกการทำงานภายใต้กลยุทธ์ 4G มาช่วยขับเคลื่อน โดยเฉพาะกลไก Global ที่มุ่งสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการขยายตลาดของสตาร์ตอัปไทยสู่ระดับสากล ผ่าน Soft Landing Program ซึ่งช่วยลดอุปสรรคและความเสี่ยงในการเข้าสู่ตลาดใหม่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปไทยเข้าถึงระบบนิเวศนวัตกรรมในแต่ละประเทศเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🧭 สำหรับ แผนการทำงานปี 2026 NIA ตั้งเป้าหมายมุ่งเน้นไปยัง “ตลาดเอเชีย” เป็นหลัก โดยกำหนด 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยแต่ละประเทศมีพันธมิตรสำคัญคอยสนับสนุน อย่าง HKSTP (Hong Kong Science and Technology Parks Corporation), Startup City Fukuoka และ Monsha’at ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้สตาร์ตอัปไทยสามารถ “ลงจอด เติบโต และสเกลต่อ” ในตลาดต่างประเทศได้อย่างราบรื่น
🇭🇰 ในการขยายโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ การสร้างการรับรู้ต่อผลงานนวัตกรรมก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ ดังนั้น NIA จึงมีแผนในการพาสตาร์ตอัปไทยไปร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โดยตลาดแต่ละประเทศก็จะมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่แตกต่างกัน สำหรับ “ฮ่องกง” จะเข้าร่วมในงาน Jumpstarter 2026 ในฮ่องกงซึ่งจะเน้นธุรกิจด้าน AI และความยั่งยืนเป็นหลัก ส่วน InnoEx 2026 จะมีการสนับสนุนครอบคลุมใน 5 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ AI, Robotics, Low-altitude Economy, Property Technology และ Retail Technology ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบปะผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจ
🇯🇵 ต่อมาสำหรับกิจกรรมในประเทศ “ญี่ปุ่น” จะมีกิจกรรมที่จะนำทีมสตาร์ตอัปไปเข้าร่วมในงาน SusHi Tech Tokyo 2026 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
🚀 ส่วนสุดท้ายคือประเทศในโซน “ตะวันออกกลาง” จะมีการเข้าร่วมงาน Biban 2026 เพื่อพบปะผู้เชี่ยวชาญระดับท้องถิ่นและระดับโลก แลกเปลี่ยนความรู้ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
🧑💻 โดยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในแต่ละครั้งจะเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปที่ผ่านการคัดเลือกได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมใน Demo Day ซึ่งเป็นเวทีสำหรับดึงดูดนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ ธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าร่วม Workshop เพื่อเตรียมความพร้อม เพิ่มศักยภาพ และความมั่นใจก่อนไปเยือนในตลาดต่างประเทศ
🇹🇭 โปรแกรม Soft Landing ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับประเทศ เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยยกระดับการขยายโอกาสทางธุรกิจของสตาร์ตอัปไทย ผ่านการสนับสนุนของเครือข่ายพันธมิตร ทำให้การเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเป็นไปอย่างมั่นคง มีประสิทธิภาพ สำหรับสตาร์ตอัปที่สนใจ อย่าลืมติดตามการเปิดรับสมัคร เพื่อไม่พลาดโอกาสขยายตลาดไปยังต่างประเทศไ พร้อมสร้างรายได้และโอกาสเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน
อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://jumpstarter.hk/
https://www.hktdc.com/event/innoex/en
https://bit.ly/4pgKT4f
https://bibanglobal.sa/en
https://qatar.websummit.com/startups/impact-startups/