สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

รวมมาให้ดู! 5 นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต คนไทยก็ทำได้

บทความ 27 สิงหาคม 2563 14,014

รวมมาให้ดู! 5 นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต คนไทยก็ทำได้


เดี๋ยวนี้จะหยิบอะไรเข้าปากแต่ละที ต้องคิดแล้วคิดอีกว่า รสชาติจะเป็นยังไง ? สะอาดปลอดภัยแค่ไหน ? แล้วจะดีต่อสุขภาพร่างกายมั้ย ?


เพราะเรื่อง “การกิน” ทุกวันนี้ แค่อร่อยอย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้ NIA ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 “นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต” ฝีมือสตาร์ทอัพ FoodTech ไทย ในโครงการสเปซ-เอฟ (SPACE-F) รุ่นที่ 1 ที่จะทำให้ผู้บริโภคไทย ได้มีทางเลือกอาหารแบบใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดปลอดภัยต่อการรับประทาน รวมถึงยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของไทย ให้ก้าวทันและตอบโจทย์ความต้องการอาหารในตลาดโลกไม่แพ้ประเทศอื่นๆ… ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!


โครงการ SPACE-F เป็นโครงการระดับนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นรูปแบบไฮบริด (hybrid) ซึ่งมีทั้งโครงการบ่มเพาะ (Incubator Program) และโครงการเร่งการเติบโตทางธุรกิจ (Accelerator Program) รวมอยู่ในที่เดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพสาย FoodTech ให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในเวทีสากล ตลอดจนพัฒนา FoodTech Startup Ecosystem ของประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็น FoodTech Silicon Valley โดยจะเปิดตัว FoodTech Startup รุ่นที่ 2 ในเดือนตุลาคม 2563 นี้... ติดตามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://www.space-f.co/ 



Sesamilk น้ำนมงาแท้ 100% เจ้าแรกของโลก

นอกจากกลิ่นหอมชวนเรียกน้ำย่อยแล้ว ใน “เมล็ดงา” ยังเต็มไปด้วย “เซซามิน” สารอาหารที่มีความสามารถสุดน่าทึ่ง ทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นกำเนิดของเซลล์มะเร็ง ช่วยยับยั้งการสลายกระดูก สาเหตุของโรคกระดูกพรุน กระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินอีอีก 10 เท่า


แต่จะให้เคี้ยวงาขาวงาดำกินแทนข้าวก็อาจจะทำได้ยาก จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “Sesamilk” น้ำนมพร้อมดื่มจากงาแท้ 100% ตัวแรกในโลก ที่ไม่ใช่แค่การนำงาไปบดผสมน้ำนม แต่ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบพิเศษที่ Sesamilk Foods ใช้เวลาวิจัยนานถึง 2 ปี กว่าจะสามารถคั้น “เมล็ดงา” ให้ออกมาเป็น “น้ำนมงา” แทนที่จะออกมาเป็นน้ำมันงาแบบกรรมวิธีทั่วไป


ทำให้ Sesamilk เป็นน้ำนมงาเกรดพรีเมียม ที่มีปริมาณเซซามินมากที่สุดในท้องตลาด (มากกว่าผลิตภัณฑ์น้ำนมผสมสารสกัดจากงาถึง 280 เท่า) และไม่มีส่วนผสมของนมวัวหรือนมถั่วเหลือง สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย โดยไม่เสี่ยงต่ออาการท้องอืดหรืออาการแพ้ และด้วยส่วนผสมหลักนั้นมาจากเมล็ดงาซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจไทย จึงไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศแบบนมอัลมอนด์หรือนมพิสตาชิโอที่กำลังเป็นที่นิยม


ปัจจุบัน Sesamilk วางจำหน่ายให้ทุกคนได้ไปสัมผัสความอร่อย หอม หวานมัน แถมด้วยประโยชน์มากมายแล้วถึง 3 สูตรด้วยกัน ทั้งนมงาขาว นมงาดำ และนมงาขาวสูตรน้ำตาล 0% เข้าไปดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ http://www.sesamilkfoods.com/ 

Phum Meal ‘ไข่ผำ’ เจ้าของฉายาคาเวียร์แห่งสายน้ำ

หลายคนอาจไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ แต่ ‘ผำ’ หรือ ‘ไข่น้ำ’ คือหนึ่งในสุดยอดอาหารแห่งอนาคต ที่ NASA เองยังต้องวิจัยมันเพื่อทำเป็นอาหารให้กับนักบินอวกาศ


ผำ หรือ ไข่แหน (มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wolffia globose) เป็นดอกไม้น้ำที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ลอยตัวเป็นแพบนผิวน้ำ ด้วยหน้าตาคล้ายไข่ปลาจิ๋ว จึงมักถูกเรียกว่า “คาเวียร์แห่งสายน้ำ” แต่สิ่งที่ทำให้ผำกลายเป็นที่จับตาของวงการอาหารทั่วโลก นั่นเพราะปริมาณโปรตีนที่มากถึง 50% ของน้ำหนัก ซึ่งมากกว่าพืชตระกูลถั่วที่นิยมนำมาใช้ผลิตเป็นเนื้อสัตว์ทดแทนเสียอีก แถมยังเติบโตได้รวดเร็วมาก สามารถเพิ่มจำนวนเป็น 2 เท่าได้ในเวลาเพียง 24-48 ชั่วโมง 


จึงเป็นโอกาสให้กับ Advanced Green Farm สตาร์ทอัพไทยที่ผสมผสานนวัตกรรม AgTech และ FoodTech เข้าด้วยกัน ทั้งการทำฟาร์ม ‘ผำ’ ระบบปิด ที่จำลองสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเติบโตของผำ ให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และสะอาดปลอดภัยกว่าปล่อยให้โตตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ก่อนจะนำไปผ่านกระบวนการควบคุมการผลิตและแปรรูปออกมาเป็นสินค้า Phum Meal ได้หลายประเภท


ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในรูปแบบ ‘ผำสด’ ปลอดสาร ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 จะตักทานสด ก็ให้รสสัมผัสกรุบๆ เคี้ยวสนุก หรือจะเอาไปปรุงอาหารต่อก็ได้ ‘ผำแช่แข็ง’ (Freeze dried) ที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมากขึ้น รวมถึง ‘ผงโปรตีนจากผำ’ ที่สามารถนำไปผสมและขึ้นรูปเป็นอาหารและขนมที่อุดมไปด้วยโปรตีนได้

Eden (Naturen) สารสกัดยืดอายุพืชผัก ทานได้ ไม่ต้องล้าง

ไม่ว่าใครก็คงอยากจะซื้อผักผลไม้ที่สดใหม่กันทั้งนั้น แต่กว่าผักผลไม้เหล่านี้จะเดินทางจากฟาร์มมาให้เราเลือกซื้อกัน ต้องผ่านทั้งกระบวนการขนส่งที่ใช้ระยะเวลานาน และอากาศเมืองไทยที่เป็นปัจจัยให้ผลผลิตเน่าเสียได้ง่าย


ปัญหาแบบนี้กำลังจะหมดไป เพราะ Eden (Naturen) คือสารเคลือบช่วยยืดอายุผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งเมื่อนำไปจุ่มหรือฉีดพ่นผักผลไม้แล้ว สารดังกล่าวจะเคลือบผิวคล้ายฟิล์มล่องหน และลดอัตราการหายใจของเซลล์ ชะลอการสุก ยืดอายุผลผลิตได้นานถึง 3 เท่า ช่วยถนอมคุณภาพสารอาหารในผลผลิต และคงสีสวย ดูน่าซื้อน่ากินมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Eden Agritech สตาร์ทอัพผู้พัฒนาการันตีได้เลยว่า ต่อให้ส่งออกไปขายไกลถึงโซนยุโรป ก็ยัง “สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากไร่”


ที่พิเศษยิ่งกว่านั้น คือ สารเคลือบนี้ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โดยสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติด้วยกระบวนการพิเศษ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตอบโจทย์การใช้งานตั้งแต่ร้านรถเข็นผลไม้ ที่ลูกค้าสามารถทานได้เลยโดยไม่ต้องล้างออก จนถึงภาคการส่งออก ซึ่งมีการตรวจสอบคุณภาพและตรวจสอบสารเคมีอันตราย ทำให้ผู้ส่งออกไม่ต้องกังวลเลยว่าผักผลไม้ของตนเองจะไม่ผ่านการตรวจสอบและถูกตีกลับ

Sixtein ผงโปรตีนจิ้งหรีด วัตถุดิบใหม่ในการผลิตอาหาร

แม้ประเทศไทยจะคุ้นเคยกับการกินแมลง แต่ถ้าจะให้กินแบบทั้งตัว อาจยังไม่ใช่เรื่องทั่วไปสำหรับใครหลายคน


Thai Ento Food สตาร์ทอัพไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับฟาร์มแมลงครบวงจร เลยนำ “จิ้งหรีด” ที่ตนเองเลี้ยงได้ มาผ่านกรรมวิธีการแปรรูปที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนออกมาเป็นผงโปรตีนคุณภาพสูงที่มีชื่อว่า “Sixtein” ที่มีปริมาณโปรตีนต่อน้ำหนักสูงถึง 70% (มากกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ประมาณ 20-30%) แถมยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคยอดนิยมสำหรับคนยุคปัจจุบัน


ปัจจุบัน Sixtein เองยังได้รับทุนสนับสนุนภายใต้โครงการ Spearhead ในการวิจัยพัฒนาเพิ่มเติม มูลค่าโครงการ 3 ปี รวมกว่า 100 ล้านบาท และเตรียมทำตลาดในประเทศไทยช่วงปลายปี 2020 ซึ่ง “ผงโปรตีนจากแมลง” แบบนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารได้อีกหลากหลาย เช่น นำไปใช้เป็นโปรตีนทดแทนในเวย์โปรตีน หรือนำไปเป็นส่วนผสมให้กับอาหารต่างๆ ไม่แน่ว่าต่อไปเราอาจได้ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีโปรตีนไม่แพ้สเต็กเนื้อดีๆ เลย ชาว #คนหิวยามดึก ขอกดถูกใจสิ่งนี้

Artificial Anything (E.I.S) เซนเซอร์ตรวจสารปนเปื้อนเครื่องดื่มใน 10 วินาที

รู้หรือไม่… เครื่องดื่มที่เราซื้อกันอยู่ทุกวันนี้ ต้องผ่านการทดสอบสารปนเปื้อนในแล็บที่กินเวลานานหลายชั่วโมง


จาก Pain Point ที่ภาคการผลิตต้องเจออยู่ทุกวันนี้ Artificial Anything สตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงก้าวเข้ามาพัฒนา เซนเซอร์ตรวจสอบสารปนเปื้อนจากการสะท้อนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (E.I.S: Electromagnetic Image Spectroscopy) ที่ร่นระยะเวลาการตรวจสอบคุณภาพเครื่องดื่มให้เหลือแค่ 10 วินาที


แล้วเจ้าเครื่อง E.I.S ทำงานยังไงกัน ? นั่นเพราะตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลจากการสะท้อนของคลื่นไมโครเวฟ ก่อนจะแปลงข้อมูลดังกล่าวส่งเข้าสู่ Cloud Server และใช้ AI วิเคราะห์เปรียบเทียบกับตัวอย่างเครื่องดื่มที่บริษัทเก็บข้อมูลไว้ ซึ่งจะต้องมีลักษณะของข้อมูลที่ตรงกันมากกว่า 96% จึงจะผ่านมาตรฐานการผลิตนั่นเอง โดยปัจจุบัน Artificial Anything อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถนำไปใช้ตรวจสอบคุณภาพเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภทมากขึ้น โดยจะเริ่มต้นทำตลาดเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม่พร้อมดื่ม 100% ก่อนเป็นอันดับแรก