สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

“The Founder II” อีบุ๊กสร้างแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธุรกิจนวัตกรรม คลังแสงแห่ง “นวัตกรรมเชิงความคิด” แบบคนไทย

News 3 พฤษภาคม 2565 893

“The Founder II” อีบุ๊กสร้างแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธุรกิจนวัตกรรม คลังแสงแห่ง “นวัตกรรมเชิงความคิด” แบบคนไทย


NIA จัดกิจกรรมเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ไทยสู่ประเทศแห่งนวัตกรรม เปิดแคมเปญ “The Founder II” ชู 26 คนต้นแบบด้านธุรกิจนวัตกรรม นำเสนอมุมมองของบุคคลที่สามารถสร้างทางรอดในภาวะวิกฤต ได้แก่ Pandemic ผู้ก่อตั้งองค์กรที่สามารถปรับตัวได้ดีในช่วงวิกฤตโควิด – 19 Climate Change 


ผู้ก่อตั้งองค์กรที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และ Economic Crisis ผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ผ่านอีบุ๊ก นิทรรศการและนิทรรศการเสมือนจริง กระตุ้นให้เกิดการใช้ “นวัตกรรมเชิงความคิดเพื่อสร้างทางรอดที่แตกต่าง” พร้อมผลักดันสู่กรณีศึกษาแบบไทยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างแท้จริง 


ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า NIA มีเป้าหมายในการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม” โดยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ภาพรวมทางนวัตกรรมของประเทศก้าวสู่ 30 อันดับแรกของโลก ทั้งนี้ การที่นวัตกรรมไทยจะมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดได้นั้น สิ่งสำคัญคือต้องอาศัยความเข้มแข็งจากภาคธุรกิจเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อน จึงเกิดเป็นแคมเปญ The Founder II เพื่อนำเสนอมุมมองของบุคคลต้นแบบผู้ก่อตั้งธุรกิจนวัตกรรมในประเทศไทย โดยมุ่งหวังที่จะให้ภาคธุรกิจ หรือบุคคลรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจ ได้เห็นถึงบุคคลที่มีความสามารถทางด้านนวัตกรรมซึ่งสร้างทางรอดให้กับธุรกิจของตนได้ในภาวะวิกฤต (Innovation in Time of Crisis) และยังถือเป็นต้นแบบแห่ง “นวัตกรรมเชิงความคิด” ที่จะทำให้เห็นตัวอย่างแนวคิดและรูปแบบที่ทำให้สินค้าและบริการสามารถอยู่รอดได้ในภาวะที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน พร้อมเป็นกรณีศึกษาแบบไทยให้คนไทยได้เรียนรู้อีกด้วย

.

นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากตัวแทน The Founder II ทั้ง 3 ท่านร่วมคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในองค์กร โดยคุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์กรที่สามารถปรับตัวได้ดีในช่วงวิกฤตโควิด – 19 เปิดเผยว่า วิกฤตการระบาดโควิด -19 เป็นวาระระดับโลกที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน และแม้ว่าโอกาสจากวิฤตครั้งนี้จะทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรไทยได้รับความนิยม แต่ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ก็มองว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำให้สมุนไพรชนิดนี้มีคุณภาพ เกิดประโยชน์ในวงกว้างไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะกับอ้วยอันโอสถเท่านั้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทางบริษัทมองเป็นอันดับแรกก็คือองค์กรจะปรับตัวได้อย่างไร และจะทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือได้อย่างไร ซึ่งคำตอบก็คือการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ โดยบริษัทมีการผสมผสานนวัตกรรมให้เหมาะสมกับศาสตร์แบบจีน และส่งนวัตกรรมผ่านอรรถประโยชน์ในเชิงการใช้ เช่น ยาน้ำเบื้องต้นสำหรับเด็ก สมุนไพรสำหรับนักวิ่ง ฯลฯ ให้เข้าถึงคนในสังคมที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ สิ่งที่ให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ “หลักการคิด” ที่ผสมผสานทั้งแบบคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นศิลปะและกลยุทธ์ที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความสร้างสรรค์ตอบโจทย์ที่ผู้บริโภคมองหา


ขณะที่คุณสรณัญช์ ชูฉัตร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในต้นแบบองค์กรที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่ต้องลบภาพจำหรือมุมมองที่ทุกคนมีต่อแบรนด์นวัตกรรมไทยก็คือ คนไทยไม่ได้ทำได้แค่เพียงส่วนประกอบของสินค้า - บริการเท่านั้น อย่างเช่นในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไทยขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตชิ้นส่วนรถ ตอนนี้ต้องทำให้เห็นว่าไทยก็สามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ และทำให้ทุกคนมีโอกาสใช้นวัตกรรมที่มีคุณภาพได้เช่นเดียวกัน สำหรับอีทราน ในช่วงที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับทุกธุรกิจ แต่สิ่งที่บริษัทพยายามมองหาคือจุดที่เป็น Pain Point ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความคิดในการสร้างสรรค์หรือพัฒนาสิ่งใหม่จนกลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยทำให้บริบทโลกดีขึ้น ทั้งนี้ อนาคตสิ่งที่เป็นเป้าหมายในฐานะแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารายแรกของไทยก็คือ จะทำนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของโลกทั้งองค์ประกอบของรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสร้างพลังงานสะอาดให้ทุกคนเข้าใจและเข้าถึง การพัฒนา Super App หรือเชื่อมต่อนวัตกรรมไปยังภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตรกรรม ฯลฯ และทำให้นวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่เท่าเทียมทั้งกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม 


คุณสุนทร เด่นธรรม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ กล่าวว่า การจะก้าวสู่เป้าหมายที่แต่ละธุรกิจวางไว้ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ภายใต้ภาวะวิกฤตสิ่งสำคัญที่สุดคือ Business Model Innovation เพราะในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลง การคิดหรือการแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรมสามารถทำได้เร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ ในโลกที่ทุกอย่างแข่งขันกันด้วยความรวดเร็วสิ่งที่ทุกองค์กร/ทุกบริษัทควรมีคือ “การคิดหรือทำอย่างแตกต่าง” เพราะได้เปรียบกว่าการจะไปแข่งขันในเรื่องต้นทุน ราคา และสามารถสร้างประสบการณ์และมูลค่าได้ยั่งยืนกว่าทั้งมิติของสินค้าและบริการ เช่น บริษัท ฮิวแมนิก้าฯ ได้นำความคิดทั้งหมดเหล่านี้มาขับเคลื่อนองค์กรจนปัจจุบันมีผู้ใช้บริการด้าน HR Solutions มากกว่า 3,000 องค์กร และแสดงให้เห็นว่าซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยคนไทยก็มีประสิทธิภาพ และทำให้ทุกคนมั่นใจในนวัตกรรมที่เป็นแบรนด์คนไทยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แบรนด์นวัตกรรมไทยหากจะทำให้ทัดเทียมกับระดับโลกก็ต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และต้องรู้จักวิธีการทำให้แตกต่างอย่างมีสุนทรียภาพ ซึ่งส่วนนี้เชื่อว่าเป็นความถนัดของคนไทย และเราจะได้เห็น Founder ที่เก่ง ๆ มากขึ้นแน่นอน 


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั่วไป หรือบุคคลที่สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือ The Founder II อ่านได้ในรูปแบบ e- Book พร้อมรับชมนิทรรศการเสมือนจริงที่ https://thefounder.nia.or.th/ ได้ตั้งแต่วันนี้ ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย 


#NIA #TheFounder #TheFounderbook #InnovationThailand