สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

NIA เดินหน้าผลักดันนวัตกรรมเพื่อสังคม ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสีเขียวผ่านกิจกรรม Top Executives Innovation Site Visit THE CURATED OASIS : The Interactive Green Journey ณ คุ้งบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ

News 4 ธันวาคม 2568 13

NIA เดินหน้าผลักดันนวัตกรรมเพื่อสังคม ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสีเขียวผ่านกิจกรรม Top Executives Innovation Site Visit THE CURATED OASIS : The Interactive Green Journey ณ คุ้งบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ

 
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรม Top Executives Innovation Site Visit THE CURATED OASIS : The Interactive Green Journey มุ่งสร้างเส้นทางเศรษฐกิจสีเขียวและยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงนวัตกรรม ณ คุ้งบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 โดย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานในระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวกว่า 15 หน่วยงาน เดินทางสู่คุ้งบางกะเจ้า พื้นที่ท่องเที่ยวสีเขียวใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์นวัตกรรมการท่องเที่ยว (TravelTech) และนวัตกรรมอาหาร (FoodTech) ที่สามารถเชื่อมโยงผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยนำเทคโนโลยีและวัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดเพิ่มมูลค่าเพิ่มแก่พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่น และขับเคลื่อนการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมสีเขียวภายในคุ้งบางกะเจ้า เนื่องจากพื้นที่ “คุ้งบางกะเจ้า” ไม่ใช่เป็นเพียงแลนด์มาร์กสีเขียวที่เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนสำคัญใกล้กรุงเทพฯ แต่ยังเป็นที่ตั้งชุมชนที่ผสมผสานคุณค่าในหลายมิติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ที่นี่ยังเป็นต้นแบบสำคัญของการนำจุดเด่นของพื้นที่มาผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อสร้างคุณค่าที่โดดเด่น
 
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า NIA ได้ให้การสนับสนุนบริษัท บริษัท เลิร์นดู วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในการพัฒนาโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคมที่สำคัญในบริเวณพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการ “Virtual Local Travel : นวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี VR” ซึ่งเป็นก้าวแรกในการใช้เทคโนโลยี VR ถ่ายทอดมุมมองใหม่ของชุมชน เพื่อให้ผู้คนเห็นเรื่องราวท้องถิ่นผ่านประสบการณ์ดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย และช่วยให้พื้นที่แห่งนี้เริ่มมีเวทีในการเล่าเรื่องด้วยภาษาของนวัตกรรม 2. โครงการ “บางกะเจ้า AR Food Hunt : เส้นทางท่องเที่ยวตามหารสชาติจากท้องถิ่นชาวบางกะเจ้า” ซี่งถือเป็นโครงการที่ผสมผสานนวัตกรรมทั้งด้านเทคโนโลยีอาหารและเทคโนโลยีการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน โดยมุ่งยกระดับทั้งระบบนิเวศนวัตกรรมสีเขียวของคุ้งบางกะเจ้า ผ่าน 2 มิติ ได้แก่ “นวัตกรรมอาหาร” (Food Tech) ด้วยกระบวนการ Molecular Gastronomy ที่นำพืชท้องถิ่นภายในคุ้งบางกะเจ้ามาร่วมสร้างสรรค์เมนูอาหาร ที่สามารถเพิ่มมูลค่าอาหารได้สูงขึ้น และ “นวัตกรรมการท่องเที่ยว” (TravelTech) ด้วยเทคโนโลยี AR ที่นำ AR มาเล่าเรื่องราวจุดท่องเที่ยวสำคัญของพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ผ่านตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อสร้างประสบการณ์และรายได้แบบใหม่ให้ท้องถิ่น
 
“โครงการดังกล่าวนับเป็นการรังสรรค์ประสบการณ์จากท้องถิ่น ให้กลายเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสีเขียวใหม่ของประเทศ ผ่านการใช้นวัตกรรมเน้นกระบวนการและเทคโนโลยี ควบคู่กับภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนบางกะเจ้า ทั้งโครงการยังเน้นการเรียนรู้เชิงประสบการณ์กับเยาวชน และการเชื่อมโยงการสัมผัสทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ไปสู่การซื้อแพ็กเกจทัวร์เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างชัดเจน”
 
พร้อมเผยถึงแนวคิดในการที่ NIA หนุนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวรุ่นใหม่อย่าง บริษัท เลิร์นดู วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เนื่องจากมีการนำเสนอนวัตกรรมที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้การท่องเที่ยวเข้าถึงง่าย สนุก และตอบโจทย์คนรักธรรมชาติยุคดิจิทัล ด้วยนวัตกรรม AR/QR มายกระดับการเดินทาง อาหาร และประสบการณ์ท้องถิ่น ให้กลายเป็น Creative Innovation Tech ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวยั่งยืน เชื่อม “ทุนธรรมชาติ–วัฒนธรรม–ชุมชน” เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่ชุมชนได้ประโยชน์จริง
 
ด้าน น.ส.วรรณเพ็ญ แซ่เปี่ยน ประธานบริหาร บริษัท เลิร์นดู วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เผยว่า แนวคิดโครงการนี้เป็นการนำเสนอให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนผ่านกิจกรรมที่ออกแบบอย่างสร้างสรรค์ โดยโครงการยังมุ่งเน้นการอบรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการของคนในชุมชน เพื่อยกระดับสู่การเป็น 'วิสาหกิจชุมชน' ที่มีแบรนด์ รวมถึงโครงการยังเน้นการเรียนรู้เชิงประสบการณ์กับเยาวชน และการเชื่อมโยงการสัมผัสทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ไปสู่การซื้อแพ็กเกจทัวร์เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างชัดเจน
 
บริษัท เลิร์นดู วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด นำเสนอแนวคิด The Interactive Green Journey ซึ่งใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนผ่าน
• การเปิดประตูสู่บางกะเจ้าจากทุกมุมโลกด้วยเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) นวัตกรรมแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้คุณสัมผัสบางกะเจ้าได้แม้ตัวอยู่ไกล ผ่านการเล่าเรื่องของ "ปราชญ์ชุมชน" แบบ 3 มิติ ให้ปราชญ์ท้องถิ่นเป็นผู้เล่าเรื่องราววิถีชีวิต หากมีแว่น 3D ก็สามารถท่องเที่ยวในโลกเสมือนจริง (Metaverse) ได้ทันที พร้อมระบบให้จองแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากชุมชน
• สนุกกับประสบการณ์จริงด้วย AR Travel & Gamification ที่นักท่องเที่ยวจะได้เปิดประสบการณ์ผ่าน Application โดยใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) นำทางและเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
- เส้นทางหลากหลาย: เลือกได้ทั้งเส้นทางธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือกิจกรรม หรือได้ครบทุกแบบแต่แบ่งตามระยะ ใกล้-กลาง-ไกล
- ไกด์พิเศษ เส้นทางธรรมชาติ: พบกับ "น้องคิริน" (นกปรอดเหลืองหัวจุก) คาแรกเตอร์นำทางที่จะพาชมพืชพรรณและจุดสำคัญในเส้นทางธรรมชาติ
- Mission & Rewards: สนุกกับภารกิจสแกน QR Check-in สะสมสแตมป์ เพื่อแลกรับของที่ระลึก หรือใช้เป็น ส่วนลดซื้อสินค้าและบริการในชุมชน ช่วยกระจายรายได้สู่ชาวบ้าน
- "AR Food Hunt" และเมนูจากเชฟมืออาชีพ เติมเต็มสัมผัสด้วยรสชาติแห่งบางกะเจ้า กับเมนูอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟจากวัตถุดิบพื้นถิ่น ปลอดสาร และรู้แหล่งที่มา ภายใต้คอนเซปต์ Interactive Green Journey ที่ครบทุกสัมผัส ทั้งการมองเห็นพื้นที่สีเขียว และการลิ้มรสอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
 
กิจกรรมในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงระบบนิเวศนวัตกรรมการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน ทั้งเทคโนโลยี นโยบาย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเสริมศักยภาพชุมชน และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก ผ่านการทำงานบน 2 แพลตฟอร์มหลัก คือ Social Platform ที่มุ่งสร้างงานและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน และ Enterprise Platform ที่ต่อยอดความรู้สู่ธุรกิจจริงเพื่อเพิ่มรายได้หมุนเวียนสู่พื้นที่ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์ออนไลน์–ออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างชัดเจน