สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
การจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2561
มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ NIA จัดงานแถลงข่าว “การจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2561” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลงานนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ “ข้าวไทย” ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสร้างโอกาสการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวไทย และรูปแบบการพัฒนานวัตกรรมข้าวไทย โดยในปีนี้ขยายเวลารับสมัครถึง 15 กันยายน 2561
รางวัล
รางวัลแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยใช้เกณฑ์การตัดสินความเป็นนวัตกรรมของผลงาน การสร้างมูลค่าเพิ่มของข้าวไทย และศักยภาพในการพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 80,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และอันดับสองได้เงินรางวัล 40,000 บาท และ 20,000 บาท ตามลำดับ และรางวัลชมเชยจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท
ในปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ปริมาณ 11.63 ล้านตัน และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกข้าวขาวมากที่สุดปริมาณกว่า 5 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 43% ของปริมาณการส่งออกข้าวรวม แต่มีการแข่งขันด้านราคามากในตลาดโลก เนื่องจากไทย เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก และเป็นข้าวคุณภาพปานกลางที่เหมาะกับผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่มีกำลังซื้อจำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยยังคงแข่งขันด้านราคากับปริมาณอยู่ แต่ไม่ได้แข่งขันในด้านการสร้างคุณค่าและมูลค่าที่เพิ่มขึ้น NIA จึงวางเป้าหมายในการยกระดับข้าวในเชิงพาณิชย์ ซึ่งต่อไป “ข้าว” ที่เป็นสินค้าเกษตร จะไม่ใช่เพียงสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น แต่งจะต้องปรับเปลี่ยนจาก “เกษตรแบบดั้งเดิม”ไปสู่ “เกษตรอุตสาหกรรม” และก้าวไปสู่ “เกษตรบริการ หรือธุรกิจเกษตร” ที่มีการใช้นวัตกรรมเป็นหลักในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย ดังนั้นข้าวจะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงมาก และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยที่ผ่านมา NIA มุ่งเน้นผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในข้าวให้ก้าวสูงขึ้นด้วยการพัฒนาธุรกิจใหม่บนฐานความรู้ และการใช้นโยบายนวัตกรรมข้าวไทยในเชิงรุกผ่านการสนับสนุนโครงการนวัตกรรม
การดำเนินแนวทางประชารัฐ
การดำเนินแนวทางประชารัฐที่มีบูรณาการร่วมกันระหว่าง สนช. ผู้ประกอบการ และเกษตรกรไทย จะสามารถเร่งรัดให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมข้าวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มสูงนั้น ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะกระจายไปในทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรม หรือผู้ประกอบการ เกษตรกร ชาวนาผู้ปลูกข้าว ดังนั้น โอกาสทางเศรษฐกิจที่เราสามารถแข่งขันได้ ก็คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีโอกาสขยายตัวสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว ในกลุ่มของอาหารสุขภาพ กลุ่มอาหารเพื่อความสะดวกสบาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและยา รวมถึงการพัฒนารูปแบบธุรกิจและเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกย์ใช้ ย่อมเกิดการสร้างธุรกิจใหม่ ตลาดใหม่ และแหล่งรายได้ใหม่ที่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้เกษตรกรมีโอกาสลดความผันผวนของราคาข้าวได้มากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องขายในรูปของข้าวสารเพียงอย่างเดียว เป็นการสร้างทางเลือกในการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกรไทยได้อีกด้วย
สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดคลิ๊กที่ www.thairice.org/…/inno-contest-2561/rice-innovation2018.pdf