สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
NIA เปิดมาตรการเยียวยาเพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือและฟื้นฟูสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านการสนับสนุนทางด้านการเงิน การลงทุน การตลาด เครือข่าย รวมถึงการส่งเสริมองค์ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สามารถก้าวต่อไปได้
ที่ผ่านมา NIA มีการพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน การลงทุน การตลาด กฎระเบียบ เครือข่าย รวมถึงการเสนอนโยบายและจัดทำร่าง พ.ร.บ. การพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด
สำหรับวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ครั้งนี้ ถือว่าส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมไปทั่วโลก ซึ่ง NIA ได้เตรียมมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และวิสาหกิจเพื่อสังคม หลังวิกฤตผ่านพ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1) การสนับสนุนด้านเงินทุนให้เปล่าผ่านกลไกหลักของสำนักงาน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยเบื้องต้นได้สนับสนุนทุนนวัตกรรมไปแล้วกว่า 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินอุดหนุนรวม 39.8 ล้านบาท และยังได้เตรียมงบอุดหนุนแบบให้เปล่าไว้สำหรับช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 อีกกว่า 70 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจฐานนวัตกรรมทั้งมิติเศรษฐกิจ และสังคม นอกจากนี้ ยังได้หารือกับสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น ธ.ออมสิน ธ.ไทยพาณิชย์ ฯลฯ เพื่ออนุมัติเงินกู้เงื่อนไขพิเศษสำหรับสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด -19
2) การสร้างตลาดใหม่และส่งเสริมการเติบโต ด้วยการสร้างโอกาสเข้าถึงตลาดภาครัฐได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการจัดซื้อจัดจ้างของตลาดภาครัฐสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ GPT และ แพลตฟอร์ม “YMID Portal” เป็นต้น ซึ่งในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 นี้ก็ได้สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาดังกล่าวกว่า 12 ราย ได้เข้าไปร่วมทำงานจริงกับเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 9 แห่ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถขยายโอกาสต่อไปในภาครัฐอื่นได้ นอกจากนี้ NIA ยังเตรียมเปิดพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้สตาร์ทอัพมาโปรโมทนวัตกรรมดีๆ ผ่านช่องทางเพจ Startup Thailand ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ สำหรับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและต้องการก้าวสู่ระดับประเทศหรือระดับนานาชาติมากขึ้น NIA ก็มีเครือข่ายกับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น เครือซีพี ไทยยูเนี่ยน สยามคูโบต้า ช.การช่าง ฯลฯ ที่พร้อมจะร่วมลงทุนและผลักดันให้สตาร์ทอัพนั้นได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป
3) การส่งเสริมความรู้และการพัฒนาสตาร์ทอัพ ซึ่งที่ผ่านมีการจัดหลักสูตรอย่างต่อเนื่องทั้งระดับเยาวชน และสตาร์ทอัพทั่วไป และขณะนี้ได้มีการพัฒนาเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้นผ่านสถาบันวิทยาการนวัตกรรม โดยภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีมากกว่า 10 หลักสูตร และโครงการ Startup Thailand League ที่เน้นไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มีความสนใจจะเป็นสตาร์ทอัพ ซึ่งมีเข้าร่วมกว่า 2,000 ราย
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ามีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ธนาคาร และเอกชน ได้เริ่มสนับสนุนสตาร์ทอัพและวิสาหกกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เช่น กระทรวงการคลัง NSTDA DEPA ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ และ Innospace เป็นต้น
ตลอดระยะเวลาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 NIA ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นการรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ พื้นที่เสี่ยง ประกาศของภาครัฐ รวมถึงอาการติดเชื้อและการดูแลรักษาสุขภาพ การรวมแอพพลิเคชั่นดีๆ ให้ห่างไกลโควิด การปรับแผนสู้โควิด การนำระบบสุขภาพทางไกล (TeleHealth) เข้ามามีบทบาท อีกทั้งการนำเสนอชุดตรวจโควิด และที่สำคัญได้เปิดแพลตฟอร์ม YMID Portal ที่เป็นแหล่งอัปเดตสถาณการณ์การระบาดของไวรัสนี้