สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

จับอินไซต์ Gen Z แคร์โลก ผู้บริโภคกระแสใหม่ เบื้องหลังโอกาสธุรกิจ 11 ล้านล้าน

บทความ 8 พฤษภาคม 2564 6,074

จับอินไซต์ Gen Z แคร์โลก  ผู้บริโภคกระแสใหม่ เบื้องหลังโอกาสธุรกิจ 11 ล้านล้าน


เชื่อมั้ยว่า 81% ของผู้บริโภคในอาเซียนยอมจ่ายแพงขึ้น

เมื่อเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 


แม้กระแสรักษ์โลกจะมีมานานนับสิบๆ ปี แต่เทรนด์ผู้บริโภคสายกรีน ณ ทศวรรษนี้ไม่เหมือนยุคก่อนสักเท่าไร ความเปลี่ยนแปลงในความใส่ใจสิ่งแวดล้อมของผู้คนนั้นทวีคูณขึ้นหลายเท่าตัว อาจเป็นเพราะวิกฤติมลพิษทางอากาศที่เกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน ปัญหาไฟป่ารุนแรงที่มีให้เห็นมากขึ้น รวมไปถึงประเด็น Climate Change ที่มนุษยชาติดูเสี่ยงขึ้นทุกวันจากข่าวน้ำแข็งขั้วโลกละลาย


ลำพังในปี 2564 เองนี้ มีคนที่ใส่ใจและปฏิบัติตัวเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้นถึง 20% จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Z ที่จะตื่นตัวในศาสตร์อีโค่เป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกิดมาก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว ทำให้เราได้เห็นคนรุ่นใหม่ออกมาเรียกร้องในประเด็นเหล่านี้ รวมถึงใช้ชีวิตแบบแคร์โลกผ่านพฤติกรรมในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น 


จากการวิจัยพบว่า กว่า 54% ของคน Gen Z เต็มใจที่จะจ่ายแพงขึ้นอีก 10% หรือมากกว่านั้นเพื่อสินค้าที่เขารู้สึกว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึง 62% คนกลุ่มนี้กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานและจะมีกำลังซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งจากสถิติทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่านี่คืออีกหนึ่งกลุ่มผู้บริโภคศักยภาพสูง ที่มีโอกาสช่วยเพิ่มยอดขาย สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตไปได้อีกไกล หากนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจเข้าใจอินไซท์ และนำสิ่งที่เคยมีอยู่มาต่อยอดเป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้พวกเขาเลือกใช้ได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดต่อสิ่งแวดล้อม


แล้วพวกเขาอยากเห็น อยากใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยโลกแบบไหนกันบ้าง ? ตัวเลือกที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสนใจอยากใช้สูงที่สุด ได้แก่ สินค้าและบริการแนว “3R” ซึ่งประกอบด้วย สินค้าที่ลดการสร้างขยะและนำกลับไปรีไซเคิลได้แบบ 100% (Recyclable) สินค้าแนวรีฟิล ที่ให้นำบรรจุภัณฑ์มาเอง (Refillable) และระบบรียูสแพ็กเกจจิ้งสินค้าที่ใช้หมดแล้ว แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuseable)


การปรับตัวของธุรกิจขนาดใหญ่จากเทรนด์ที่ว่าที่ประสบความสำเร็จ มีให้เห็นมาแล้ว เช่น Lotte Chilsung Beverage บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มเจ้าแรกของประเทศเกาหลี ที่เลิกติดฉลาก เปลี่ยนมาทำน้ำดื่มขวดใสกิ๊ง นอกจากจะดูสะดุดตาแล้ว ยังช่วยลดขยะพลาสติกและง่ายต่อการนำกลับมารีไซเคิล ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจวัยรุ่นเกาหลี จนหลายบริษัทอื่นต้องทำออกมาตามๆ กัน  


ด้านผู้นำเรื่องสินค้า FMCG อย่าง Unilever เอง นำเสนอตัวเลือกใหม่ ด้วยการนำตู้รีฟิลไปวางในซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ลูกค้าสามารถนำบรรจุภัณฑ์มาเติมของใช้สิ้นเปลืองในบ้านเช่นแชมพู เจลอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน ได้ในราคาที่ถูกลง 


หรือแม้แต่ McDonald’s เชนฟาสฟู้ดยักษ์ใหญ่ ที่เข้าใจดีว่าธุรกิจมีส่วนสร้างขยะจำนวนมาก และตัดสินใจพัฒนา “ระบบคืนแก้ว” เปลี่ยนมาเป็นแก้วรียูสที่สามารถนำกลับมาฆ่าเชื้อโรค ใช้ซ้ำได้ใหม่ ทดแทนแก้วกระดาษใช้แล้วทิ้งอย่างที่ผ่านมา และยังคืนเงินค่ามัดจำแก้วให้กับลูกค้าที่เก็บแก้วกลับมาคืนทีหลังด้วย


ตลาดผลิตภัณฑ์รักษ์โลกนี้มีมูลค่าถึง 11.93 ล้านล้านบาท และดูจากเทรนด์แล้วก็มีแนวโน้มว่าจะยิ่งเติบโตขึ้นไปอีก ขณะที่ในตลาดทุกวันนี้ แม้จะมีธุรกิจน้อยใหญ่นำเสนอตัวเลือกออกมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน นับว่าเป็นเทรนด์ที่คนทำธุรกิจควรพิจารณา และน่าจะช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในอนาคตได้


ที่มา :

https://www.marketingweek.com/fmcg-eco-active-shoppers/ 

https://www.marketsandmarkets.com/Market-Reports/green-technology-and-sustainability-market-224421448.html 

https://positioningmag.com/1285842 

https://positioningmag.com/1297515 

https://www.forbes.com/sites/gregpetro/2020/01/31/sustainable-retail-how-gen-z-is-leading-the-pack/