NIA ร่วมกับ Renesans จัดงาน Fuse@Bangkok ซึ่งเป็นงานสัมมนาทางวิชาการด้านองค์กรนวัตกรรม ได้รับเกียรติจากผู้บรรยายที่มีชื่อเสียง จากในไทยและต่างประเทศ ทั้งจากองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน เช่น สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์, KONE, SCG, NOKIA, AIT, และ VALMET อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อการสร้างผู้นำนวัตกรรมยุคใหม่ การขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน การสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม การพัฒนาศักยภาพเพื่อนวัตกรรมในอนาคต และนวัตกรรมในภาครัฐและสถาบัน

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA ได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์การทำนวัตกรรมที่มีมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งในตอนนั้นนวัตกรรมถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง การปฏิวัติ และการปฏิรูป จึงไม่ได้รับการยอมรับมากนัก ต่อมาในยุคศตวรรษที่ 19 ก็ยังมีการทำนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการสร้างสิ่งประดิษฐ์ การลอกเลียนแบบจากต่างประเทศเพื่อให้เกิดนวัตกรรม รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ และการลงมือทำ ในยุคปัจจุบันนวัตกรรมยังถูกสร้างขึ้นเรื่อย ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพสังคมจากนวัตกรรมที่เน้นเพียงการผลิตสินค้า เพิ่มเติมเป็นนวัตกรรมด้านการบริการเพื่อให้ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคมเมือง อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงภาคประชาสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การสร้างนวัตกรรมเกิดขึ้นพร้อมความยั่งยืน

ด้าน Prof. Alf Rehn ศาสตราจารย์และนักเขียนที่มีชื่อเสียงชาวฟินแลนด์ ได้กล่าวถึงการสร้างนวัตกรรมในประเทศกลุ่มนอร์ดิก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีประชากรรวมกันน้อยกว่าประเทศไทย จึงต้องคิดวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลที่มีให้คุ้มค่าที่สุด หัวใจของการสร้างนวัตกรรมในกลุ่มนอร์ดิกไม่ได้เกิดจาก Hard skills เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก Soft skills ได้แก่ ความเชื่อใจ (trust) ความโปร่งใส (transparency) และ ความร่วมมือร่วมใจ (togetherness) ที่สามารถสร้างวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และนำไปสู่การเกิดนวัตกรรมได้

#สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ #NIA #Renesans #FuseBangkok