สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
Flash Forest กับภารกิจคืนผืนป่าพันล้านต้น
“เราจะปลูกต้นไม้ให้ครบ 1 พันล้านต้น ภายในปี 2028”
นี่คือเป้าหมายสุดท้าทายของ ‘Flash Forest’ สตาร์ทอัพสัญชาติแคนาดา ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยแพชชั่นอันแรงกล้าของกลุ่มคนที่เห็นความสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุษย์ และการตัดไม้ทำลายป่า (Deforestation) โดยพวกเขาตั้งเป้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการปลูกต้นไม้จำนวนมหาศาล เพื่อเป็นการฟื้นฟูผืนป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะช่วยดูดซับและลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนโลกของเราได้อย่างมีนัยสำคัญ
แต่การจะปลูกต้นไม้ปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้นนั้น หากให้คนไปช่วยกันปลูกต้นไม้ทีละต้นๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ทั้งข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร Flash Forest จึงได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิศวกรรมไฟฟ้า ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation) พฤกษศาสตร์ และพันธุศาสตร์ ในการพัฒนานวัตกรรมสุดล้ำที่ทำให้พวกเขาสามารถปลูกต้นไม้ได้เร็วกว่าการปลูกด้วยคนถึง 10 เท่า ในขณะเดียวกันก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในการปลูกต้นไม้ลงได้ถึง 80% เทียบกับการปลูกด้วยกรรมวิธีทั่วไป
กระบวนการปลูกต้นไม้อัจฉริยะนี้ เริ่มต้นจากการใช้ ‘โดรน’ ที่ได้รับการออกแบบให้มีเทคโนโลยี Multispectral Mapping เพื่อใช้ในการตรวจสอบหาพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมในการปลูกต้นไม้ รวมถึงเทคโนโลยี Pneumatic Firing ที่ช่วยให้สามารถยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ (Seed Pod) ลงสู่พื้นดินในความลึกที่เหมาะสมได้ในความเร็ว 1 กระสุนต่อวินาที และด้วยระบบควบคุมอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จึงอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ 1 คนสามารถควบคุมโดรนพร้อมกันได้ถึง 10 ตัว เลยทีเดียว
แต่อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเจ้า Seed Pod หรือกระสุนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ในการปลูก โดยในแต่ละกระสุนนั้นจะประกอบไปด้วยเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการกระตุ้นการงอก (Pre-germinated Seed) ถึง 3 ชนิดด้วยกัน นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยปุ๋ย ราไมคอร์ไรซา และส่วนผสมสูตรลับของ Flash Forest ที่การันตีได้ว่าเมล็ดพันธุ์ที่ถูกยิงไปนั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อได้นานถึง 9 เดือน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งก็ตาม ทั้งนี้พวกเขายังได้ทำการติดตามการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการปลูกต้นไม้ให้มากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น Flash Forest ยังมีความมุ่งมั่นที่จะปลูกต้นไม้ให้มีความหลากหลายถึง 8 สปีชีส์ แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เพราะเชื่อว่าจะช่วยฟื้นระบบนิเวศให้มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ได้ในระยะยาว โดยพวกเขาตั้งเป้าที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้อย่างน้อย 150,000 ต้นภายในสิ้นปี 2020 และจะปลูกให้ครบ 1 พันล้านต้น ภายในปี 2028 โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่วัดผลได้ในทศวรรษที่กำลังจะมาถึง
นับว่าเป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพ AgTech ไอเดียเจ๋งที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม (Social Innovation) ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้ NIA เชื่อว่าทุกคนล้วนมีความสามารถที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมดีๆ ให้กับสังคมได้ และสำหรับใครที่มีไอเดียนวัตกรรมดีๆ และอยากต่อยอดให้เกิดขึ้นจริง สามารถติดตามข่าวสารทุนนวัตกรรมได้ที่ www.nia.or.th ไม่แน่ว่าสักวันคุณจะเป็นคนหนึ่งที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยให้ที่ดียิ่งขึ้น
ที่มา : https://flashforest.ca/