สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
NIA จัดงาน Top Executives Meeting : Innovation Thailand Alliance x Global “AI-Innovation towards Innovation Nation” เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI-Innovation)
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงาน Top Executives Meeting : Innovation Thailand Alliance x Global “AI-Innovation towards Innovation Nation” เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI-Innovation) และเชื่อมโยงการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทย ผ่านการสร้างความรู้จักและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนวัตกรรมระหว่างกันของ “ผู้บริหารระดับสูง (Top Executives)” จากหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI-Innovation Ecosystem) ของประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสให้เกิด “ความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างองค์กร” ขึ้นในประเทศจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านปัญญาประดิษฐ์ จำนวน 25 ท่าน " โดยได้รับเกียรติจากคุณยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ กรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ NIA เป็นประธานเปิดงาน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งนายปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA ร่วมงาน ณ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท เกษร ทาวเวอร์
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า NIA ในฐานะผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor) ที่เชื่อมการทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรมในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Groom-Grant-Growth-Global โดยกลไกที่เกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมด้าน AI มีทั้งการสนับสนุนด้านเงินทุนในการพัฒนานวัตกรรม และองค์ความรู้นวัตกรรมโดยได้ร่วมมือกับ CCC Academy เปิดหลักสูตร ACC program ซึ่งส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัล ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เพื่อพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ เพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และไอโอที ที่จะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ กรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวเปิดงานว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาค ด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา จึงได้ประกาศนโยบาย ‘อว. for AI’ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาภายใต้ 3 เสาหลัก ได้แก่ AI for Education: การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ด้วยตนเอง, AI Workforce Development: การพัฒนากำลังคนด้าน AI ในทุกระดับ และ AI Innovation: การสนับสนุนนวัตกรรม AI สู่ตลาด เพื่อสร้างความแพร่หลายและยกระดับเศรษฐกิจไทย โดย
อว. มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ครบถ้วน เชื่อมโยงทุกภาคส่วน และพัฒนานวัตกรรม AI ที่สร้างผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในภาคธุรกิจและภาคสังคม วันนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างเครือข่าย และกำหนดทิศทางการพัฒนา AI ของประเทศไทย เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาค และใช้ AI เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการขับเคลื่อนนวัตกรรมในวงการอุตสาหกรรม AI ในหัวข้อ AI-Innovation Platform: Global Perspective
• คุณสุรศักดิ์ วนิชเวทย์พิบูล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แผนกธุรกิจคลาวด์ ประเทศไทย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด หัวข้อ ‘Huawei AI Ecosystem’ กล่าวถึงถึงความพร้อมของ Huawei ในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกของ AI ตั้งแต่การจดสิทธิบัตร บุคลากร ไปจนถึงทรัพยากร โดยวันนี้ AI ส่วนใหญ่ยังอยู่ใน Public Cloud แต่จากประสบการณ์ของ Huawei ในหลายประเทศยังคงกังวลในเรื่องการรัน AI บน Public Cloud” และแนะนำ ‘Pangu’ ซึ่งเป็นโมเดล AI จากทาง Huawei ที่พร้อมจะตอบโจทย์ในด้านปลอดภัยทางข้อมูลในอนาคต นอกจากนี้ Pangu ยังมาพร้อมกับความแม่นยำในฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การคาดการณ์สภาพอากาศ, การขับรถอัตโนมัติ (Autonomous Driving) ที่มาพร้อมความปลอดภัยกว่าเดิม, การขุดเหมืองถ่านหินเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย, ไปจนถึงในด้านสาธารณสุขที่ได้ประยุกต์ Pangu ใช้ในการวิจัยตัวยาจนสามารถร่นระยะเวลาจะ 1 ปี เหลือเพียง 1 เดือน ซึ่งเป็นการฉายภาพให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ AI เข้ากับเนื้องานในปัจจุบัน ที่ไม่เพียงประหยัดเวลา แต่อาจจะนำไปสู่ผลิตภาพที่สูงขึ้นกว่าเดิม โดย Huawei ให้ความสำคัญเรื่องคน หรือบุคลากรเป็นอย่างมาก ดังนั้น การส่งต่อองค์ความรู้และการเทรนบุคลากรจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านองค์กรเข้าสู่โครงสร้างที่มี AI อยู่ในนั้นด้วย จึงเป็นเหตุว่าในอนาคตข้างหน้าที่จะถึงนี้ สายอาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่จะสามารถกระจายไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงเป็นการเตรียมพร้อมที่จะละทิ้งไปไม่ได้ รวมไปถึงความตระหนักรู้ในการประยุกต์ใช้จากผู้คนธรรมดาด้วย โดย Huawei เองก็พร้อมที่จะสนับสนุนในทุก ๆ มิติและภาคส่วนที่มุ่งหวังที่อยากจะประยุกต์ AI เข้าไปอยู่ในชีวิตของพวกเขาตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงเนื้องานเชิงลึก
• คุณวสุพล ธารกกาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดนำเสนอหัวข้อ ‘Microsoft AI at Scale’ กล่าวว่าการเข้ามาของ AI ย่อมมาพร้อมความท้าทาย แต่สำคัญที่ว่าประเทศไทยจะสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร โดยทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นสิ่งสำคัญที่อุตสาหกรรมต้องตระหนักรู้ ไม่เพียงแค่ตระหนักรู้ในสิทธิ์ของตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงการใช้ประโยชน์เท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย Microsoft เป็นแค่แพลตฟอร์มให้ท่านไปต่อยอดได้ แต่คนที่ทำให้เราสามารถแข่งขันกับที่อื่นได้คือนักพัฒนาทุกคน ดังนั้น การเห็นภาพการนำ AI ไปประยุกต์ใช้จึงเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม AI ในอนาคต เช่น Azure AI Foundry แพลตฟอร์มจาก Microsoft ที่จะมาช่วยดูแลความปลอดภัยทางข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้งานมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ในการประยุกต์ใช้ AI โดยไม่ต้องพะวงหลัง โดยทาง Microsoft พร้อมสนับสนุนการนำ AI ไปสร้าง Impact ให้แก่ประเทศไทย
• คุณศาศวัต นธการกิจกุล Head of Technology (AI/GenAI) for AWS Public Sector (Thailand) นำเสนอหัวข้อ ‘The Future of AI with AWS’ กล่าวว่า การเข้ามาของ AI ถือเป็นสิ่งที่ผู้คนตั้งคำถามอยู่มากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณศาศวัตได้ฉายภาพให้เห็นถึงวิธีที่ AWS มองการเข้ามาของ AI ในมิติของโอกาสที่สร้างให้แก่การดำเนินธุรกิจ ว่าเป็น ‘ผู้ช่วย’ (Assistant) ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การบันทึกการประชุม การช่วยเขียนโปรแกรม หรือช่วยงานยิบย่อยต่าง ๆ ที่ AI สามารถดำเนินงานได้ โดยปัญหาที่มักพบในการประยุกต์ AI เข้ากับองค์กรก็คงหนีไม่พ้นกับ ‘คุณภาพของข้อมูล’ (Data Quality) ที่ยังไม่เสถียรมากเท่าไหร่นัก AWS เองจึงมอง AI ลึก ไม่เพียงแค่ Generative AI แต่ไปจนถึง Data Foundation ที่จะเจาะลึกไปที่คุณภาพการเก็บเกี่ยวข้อมูลและนำไปสู่การประมวลผลที่แม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม และจะช่วยแก้ไขปัญหา ‘Hallucination’ หรือปรากฎการณ์ที่ปัญญาประดิษฐ์ประมวลข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกมา โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลกร ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการส่งต่อองค์ความรู้ข้อมูล หรือแม้แต่การตั้งเป้าหมายลงทุนในประเทศไทยที่จะนำไปสู่ผลประโยชน์ในอนาคตระยะยาว
• ดร.นที เทพโภชน์ ประธานหลักสูตร ACC Program, CCC Academy นำเสนอหัวข้อ ‘AI-Innovation Service Provider: Tech Talent’ กล่าวถึงการสร้างบุคลากรทาง AI ในประเทศไทยผ่าน ‘ACC Program’ หลักสูตรสอน AI ที่ร่วมมือกับ NIA และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่เพียงแค่ส่งต่อองค์ความรู้และสร้างบุคลากรผ่านการร่วมมือของสมาคม AI ที่ได้ส่งสมาคม AI มาส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ แต่ยังสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมที่จะนำไปสู่การร่วมมือและประยุกต์ใช้ในอนาคตโดยหลักสูตรก็จะแบ่งเป็นคอร์สต่าง ๆ 9 ประเภทที่มีเนื้อหามุ่งเน้นแตกต่างกันไป สิ่งที่หลักสูตรนี้มุ่งเน้น คือการไม่ได้นั่งเรียนเฉย ๆ แต่จะเน้นให้ได้ลงมือปฏิบัติและประยุกต์ใช้ตามโจทย์ที่มอบให้ เพื่อให้รู้และลองวิธีการใช้จริง ๆ ในอนาคต นอกจากนั้นก็ยังได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชั้นนำที่ได้ประยุกต์ใช้ AI ในการทำงานจริง
นอกจากนั้น ได้นำเสนอ ‘Tech Talent Pool’ ที่ฉายภาพให้เราเห็นถึงไอเดียจากผู้เข้าร่วมหลักสูตรและสะท้อนให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้นการใช้ AI ผ่านการผสมผสานความสร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่นวัตกรรมทาง AI ที่อาจช่วยขับเคลื่อนองค์กร อุตสาหกรรม หรือแม้แต่ประเทศอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยการพัฒนากำลังคนอาจไม่ใช่หน้าที่ของสถาบันการศึกษาอย่างเดียว เพราะทุกคนสามารถจะแบ่งปันความรู้ได้ เพราะทุกคนล้วนมีความถนัดเชี่ยวชาญของตัวเอง
#NIA #InnovationThailand #TopExecutivesMeeting #InnovationThailandAlliancexGlobal #AI #InnovationNation #ชาตินวัตกรรม