“Sandbox” ที่แรกในไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี

นอกจากจะตีแผ่วงการสตาร์ทอัพสุดเข้มข้น อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่ซีรีส์ Start-Up พาเราไปทำความรู้จักนั่นคือ Sandbox แหล่งรวมคนมีฝันอยากทำธุรกิจ บริษัทสตาร์ทอัพ Tech Company ฯลฯ ที่เป็นมากกว่าแค่ออฟฟิศนั่งทำงาน แต่ผสมผสานความเป็น Co-Working Space Lifestyle Community และห้อมล้อมไปด้วย Startup Ecosystem ที่เหมาะแก่การแลกเปลี่ยนไอเดีย หาคำปรึกษา บ่มเพาะความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ สร้างเครือข่ายต่อยอดสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ

หลายคนอาจคิดว่าที่แบบนี้มีอยู่แค่ในซีรีส์ แต่ไม่น่าเชื่อว่าในประเทศไทยเราเองก็มีคอมมูนิตี้ดีๆ แบบนี้แล้วเช่นเดียวกัน นั่นคือ True Digital Park (TDPK) ที่ถือว่าเป็น Global Startup Hub ที่ใหญ่ที่สุดใน ASEAN ซึ่งมีพื้นที่ทำงานในบรรยากาศสบายๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังตั้งอยู่ใจกลางย่านปุณณวิถี เดินทางสะดวกด้วย BTS และเพียบพร้อมไปด้วยระบบนิเวศที่เอื้อแก่การเติบโตสำหรับสตาร์ทอัพไทยแบบสุดๆ

ว่าแต่หน้าตาข้างใน TDPK จะว้าวแค่ไหน มีอะไรให้บ้าง วันนี้ NIA ขออาสาเป็นไกด์พาทัวร์ บอกได้เลยว่าแค่พกโน้ตบุ๊กมาเครื่องเดียว ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้เป็นวัน!

สำหรับใครที่สนใจ อยากเข้าไปใช้บริการ TDPK บ้าง สามารถดูข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.truedigitalpark.com/ 

และอย่าพลาดไปอัปเดตข่าวสาร เคล็ดลับความสำเร็จ และความเคลื่อนไหวในแวดวงสตาร์ทอัพและเทคโนโลยี ได้ที่ https://www.facebook.com/TrueDigitalPark 

ลบภาพออฟฟิศสี่เหลี่ยมออกไปได้เลย เพราะพื้นที่ Workspace ที่ TDPK ถูกดีไซน์ให้เป็น Open Space ทุกคนจะนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ และมีมุมทำงานมากมาย ทั้งโต๊ะเดี่ยว โต๊ะรวม โซฟานั่งเล่น พร้อมตกแต่งสบายตา แซมด้วยต้นไม้ประดับตามจุดต่างๆ เพราะเชื่อว่าถ้าทุกคนได้ทำงานในบรรยากาศที่ต้องการ จะช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการหาไอเดียใหม่

นอกจากมุมทำงานสบายๆ แล้ว พื้นที่นี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งห้องประชุมขนาดเล็กใหญ่กว่า 140 ห้อง จองใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ มีทาวน์ฮอลล์สำหรับจัดกิจกรรม งานสัมมนา ห้องเก็บเสียงสำหรับอัดพอดคาสต์ อุปกรณ์สำนักงาน และ Super High-speed Internet 500/500 Mbps และหากเกิดท้องหิวขึ้นมา ก็มีบาร์ขนม น้ำผลไม้ Infused และกาแฟให้ได้เติมพลังกัน หรือจะนำอาหารเข้ามาทานในโซนก็ทำได้

ครบครันขนาดนี้ แต่ค่าบริการไม่แรงอย่างที่คิด เพราะ Membership TDPK เริ่มต้นที่หลักพันบาท/เดือน หรือใครที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปนั่งทำงานทุกวัน ก็ยังสามารถจ่ายแบบวันต่อวันที่แค่หลักร้อย สามารถเข้าไปดูแพ็กเกจและส่วนลดแบบต่างๆ กันได้ที่ http://bit.ly/CoworkingspacePro

ถัดจากพื้นที่ทำงาน Co-Working Space ยังเชื่อมต่อกับ Play Zone ที่ออกแบบให้ได้มาผ่อนคลายจากการทำงาน ซึ่งมีทั้ง โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง บอร์ดเกม รวมถึง Shared Dining Space ที่ให้ทุกคนได้มาพบปะสร้างเครือข่าย หรือจะจัดปาร์ตี้ฉลองความสำเร็จ ปาร์ตี้สนุกๆ ในเย็นวันศุกร์ก็ยังได้ (น่าเสียดายที่ต้องงดกิจกรรมแนวนี้ไว้ก่อนในช่วง COVID-19)

นอกจากส่วน Play Zone แล้ว TDPK ยังมีสนามหญ้าข้างตึกให้ได้ออกมาพักสูดอากาศ แถมยังสามารถพาสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาเดินเล่นได้ รวมถึงร้านอาหารอร่อยๆ ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย ห้องบริการนวดคลายเมื่อยล้า ให้ทุกคนได้พักไปทำกิจกรรมที่ตัวเองต้องการ รีชาร์จพลังงานก่อนกลับไปลุยกับงานต่อได้

เพราะการมีที่ปรึกษาที่ดี คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ NIA ได้พัฒนา District C ขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์บริการคำปรึกษา สำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการนวัตกรรมแบบครบวงจร โดยพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงสตาร์ทอัพ ตั้งแต่เรื่องการเตรียม Pitch Deck สำหรับสตาร์ทอัพหน้าใหม่ แนะนำโปรแกรม Incubate และ Accelerate เพื่อเตรียมความพร้อมสู่สนามธุรกิจ การหาแหล่งเงินทุน เคล็ดลับการทำมาร์เก็ตติ้ง ไปจนถึงเรื่องกฎหมายธุรกิจ

District C ยังให้บริการประสานงานเรื่อง SMART Visa ซึ่งเป็นวีซ่าชนิดพิเศษสำหรับชาวต่างชาติในการเข้ามาทำงานหรือลงทุนในสตาร์ทอัพ และ Tech Company โดยไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากในการทำ Work Permit ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับสตาร์ทอัพไทย ที่กำลังมองหาทีมนักคิดนักพัฒนาต่างชาติเข้ามาช่วยติดสปีดธุรกิจ หรือในกรณีร่วมทุนเปิดบริษัท Headquarter ในประเทศไทย

ในวันที่โลกหมุนเร็วด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี ทักษะการทำงานแบบเดิมๆ อาจไม่พอ จึงเป็นที่มาของ  “ศูนย์รวมสถาบันการเรียนรู้ด้านดิจิทัลระดับโลก” หรือ House of Digital Academy เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และแนวคิดการทำงานแบบองค์กรสมัยใหม่ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในการทำงานและการทำธุรกิจ

House of Digital Academy คือศูนย์รวมทุกโอกาสการเรียนรู้ออนไลน์ จากองค์กรระดับประเทศและระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Amazon Web Service Google Huawei Microsoft ฯลฯ ที่สำคัญคือฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย! โอกาสแบบนี้พลาดไม่ได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truedigitalpark.com/TDPK-House-of-Digital-Academy 

หลายความสำเร็จสตาร์ทอัพเริ่มต้นที่นี่ กับงาน Hackathon เวทีแข่งขันสุดหิน ที่เหล่าคนมีฝันต้องมาคิดค้นโมเดลธุรกิจภายใต้เวลาที่จำกัด รวมถึงความกดดันที่ต้องขึ้นเวทีนำเสนอผล และการตั้งคำถามของกรรมการที่ทำเอาต้องปาดเหงื่อ เพื่อค้นหาทีมที่ดีที่สุดที่จะได้รับเงินลงทุนไปจริง

หลายสตาร์ทอัพไทยก็เคยผ่านเวที Hackathon นี้กันมาแล้ว และทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย พบไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งผู้ชนะจะได้รับการสนับสนุนต่างๆ ไม่ต่างจากในซีรีส์ Start-Up เลย ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน โปรแกรมให้คำปรึกษา พื้นที่นั่งทำงานใน Co-Working Space รวมถึงโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทระดับโลก

“ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา” หรือ Futuretales Lab เป็นศูนย์วิจัยที่แรกในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือของ NIA และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่มีขึ้นเพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน ในมิติต่างๆ ทั้งในมิติของการอยู่อาศัย การทำงาน การเรียนรู้ การใช้เวลาว่าง คมนาคมขนส่ง และบริบทของความยั่งยืน และวิเคราะห์คาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ที่จะกระทบต่อสังคมไทย

แล้วการศึกษา “อนาคต” สำคัญยังไง ? จะเห็นได้ว่าหลากหลายปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น เช่น สภาพอากาศ มลภาวะ โรคระบาด ฯลฯ มาจากการไม่ได้คิดป้องกันล่วงหน้า ในทางกลับกัน ข้อมูล “Scenario” ที่ Futuretales ทำขึ้น จะเป็นประโยชน์ให้กับภาครัฐ ภาคเอกชน หรือแม้กระทั่งสตาร์ทอัพหน้าใหม่ หยิบเอาไปคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อป้องกันและรับมือกับผลกระทบของสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ล่วงหน้า