สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
สำรวจ “Silicon Wadi” โอเอซิสด้านนวัตกรรมจากอิสราเอล
จาก Holy Land สู่ดินแดนแห่ง Startup
นอกจากอิสราเอลจะเป็นประเทศที่มีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและศาสนาโลกแล้ว หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าอิสราเอลมีย่านสำคัญทางเศรษฐกิจอย่าง “Silicon Wadi” ที่ทั่วทั้งโลกกำลังจับตามองอยู่ด้วย
Silicon Wadi จะมีความโดดเด่นยังไงในสนามธุรกิจโลก จะคล้ายคลึงกับย่าน Silicon Valley ที่มีชื่อและความหมายใกล้เคียงกันหรือไม่ และทำไมทั่วโลกถึงให้ความสนใจ วันนี้ NIA พามาสำรวจให้รู้กัน
“Silicon Wadi” คืออะไร สมญานามนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
Silicon Wadi เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีบริษัทด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก โดยตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งของอิสราเอล ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งคล้ายกับ Silicon Valley ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ชายฝั่งของแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) เป็นย่านที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ ทั้งๆ ที่มีประชากรราว 4 แสนคนเท่านั้น
การเติบโตของ Silicon Wadi นั้นเริ่มต้นจากปี 1960 มีบริษัทด้านโทรมานาคมถือกำเนิดขึ้นในเมืองเทลอาวีฟได้แก่บริษัท Tadiran และ Elron Electronic จากนั้นพื้นที่นี้มีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป จนมาถึงปี 1990 ก็ได้มีบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Motorola มาตั้งศูนย์วิจัยและการพัฒนาด้านเครือข่ายไร้สายไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor)
หลังจากนั้นก็เริ่มมีบริษัทด้านเทคโนโลยีจำนวนมากหลั่งไหลมายังพื้นที่นี้มากขึ้น รวมถึงมีบริษัทด้านเทคโนโลยีจากประเทศอิสราเอลเองเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น บริษัท Mirabilis ผู้สร้างโปรแกรมแชทในตำนานอย่าง ICQ ก็ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีของอิสราเอลเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่นับว่าเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถูกนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากที่สุดของโลก
ทำไม Silicon Wadi ถึงสามารถพาอิสราเอลก้าวเข้าสู่การเป็น Startup Nation ได้
นอกจากปัจจัยด้านธุรกิจข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ ภาครัฐยังเปิดกว้างให้พลเมืองจากที่ต่างๆ ย้ายถิ่นฐานเข้ามาพัฒนาย่านนี้ให้เติบโตขึ้นได้สะดวก ประกอบกับมีการช่วยเหลือการเติบโตของอุตสาหกรรมด้วยการให้กู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำซึ่งมาจากงบประมาณการพัฒนา โดยปัจจุบันภาครัฐของอิสราเอลก็เน้นการส่งเสริมด้าน Cybersecurity และ Mobility ซึ่งเป็นกลุ่มประเภทอุตสาหกรรมที่กำลังมีอิทธิพลอย่างมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ในส่วนภาคการศึกษาก็มีการปูความรู้พื้นฐานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็ก มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งคือ Technion - Israel Institute of Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอิสราเอล วิทยาเขตหลักตั้งอยู่ในเมืองไฮฟา (Haifa) และมีวิทยาเขตที่ตั้งอยู่บนย่าน Silicon Wadi ด้วย จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือเป็นมหาวิทยาลัยที่ Bloomberg เคยเขียนไว้ว่า เป็นมหาวิทยาลัยนอกพื้นที่สหรัฐแห่งเดียวที่มี CEO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจบการศึกษามากที่สุดแห่งหนึ่ง
อีกทั้งทั่วโลกต่างยอมรับกันว่า ประเทศอิสราเอลมีบุคลากรด้านการวิจัยที่จบการศึกษาในระดับปริญญาเอกมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการวิจัยและนวัตกรรม ทั้งในด้านชีวการแพทย์ที่ล้ำสมัยไปจนถึงเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างเทคโนโลยีด้าน FinTech
ชวนทำความรู้จัก Israel Innovation Authority หรือ IIA หน่วยงานส่งเสริมด้านนวัตกรรมจากอิสราเอล
ไม่ใช่แค่เพียงการส่งเสริมภาคการศึกษา กระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของอิสราเอลยังมีหน่วยงานที่มีชื่อว่า Israel Innovation Authority หรือ IIA ซึ่งบทบาทการทำงานคล้ายกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ของประเทศไทย โดยก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 1965 เน้นการช่วยเหลือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมในประเทศอิสราเอล โดยเฉพาะในย่าน Silicon Wadi
สำหรับกลไกการสนับสนุนของ IIA มีอยู่สองบทบาทด้วยกันคือ บทบาทแรกคือ Technological Incubators เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่น ผ่านการบ่มเพาะด้านองค์ความรู้ธุรกิจ นวัตกรรม รวมถึงการบริหาร กับกลุ่ม Incubators ทั่วประเทศ บทบาทที่สองคือเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ผ่านหลายโปรแกรมด้วยกัน อาทิ The R&D Fund โปรแกรม Ideation (Tnufa) โปรแกรม Technology Transfer (Magneton) และโปรแกรม Applied Research in Academia (Nofar, Kamin)
และทุกคนทราบกันไหมว่าสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ก็มีโครงการการทูตนวัตกรรม Thailand - Israel R&D Cooperation Program ภายใต้ความร่วมมือกับ Israel Innovation Authority (IIA) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับบริษัทในประเทศอิสราเอลอีกด้วย
ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม Startup และ Venture Capital ใน Silicon Wadi
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Startup Genome ฐานข้อมูลด้านสตาร์ทอัพชื่อดังระดับโลกได้รายงานว่า เมืองเทลอาวีฟ หรือ Silicon Wadi มีสตาร์ทอัพที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ราว 2,750 บริษัท มีการลงทุนในระดับ Early Stage สูงถึง 1.5 แสนล้านบาท จากมูลค่าระบบนิเวศใน Silicon Wadi ทั้งหมด 2.03 ล้านล้านบาท ส่งผลให้มีสตาร์ทอัพในระดับยูนิคอร์นมากขึ้นตามลำดับ สำหรับ Sector ที่มีความโดดเด่นก็หนีไม่พ้นด้าน AI Big Data และ Cybersecurity โดยสัดส่วนที่มากที่สุด อย่างด้าน AI มีสตาร์ทอัพที่ทำงานด้านนี้มากถึง 714 บริษัท
การเป็น Startup Nation ส่งผลให้ประเทศอิสราเอลกลายเป็นประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น Venture Capital (VC) ที่ลงทุนสูงสุดในประเทศอิสราเอล ได้แก่ OurCrowd แพลตฟอร์มด้านการลงทุนชื่อดัง ได้ลงทุนมากถึง 30 บริษัท (ข้อมูล ณ ธันวาคม 2021) ในหลากหลายอุตสาหกรรมด้วยกัน และ SoftBank ได้เผยว่ากำลังมองหาทำเลเพื่อตั้งสำนักงานในประเทศอิสราเอลอีกด้วย
ตลอดเส้นทางการเติบโตของ Silicon Wadi นั้นไม่ได้มาโดยง่าย แต่มันคือความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และนักลงทุน โดนเฉพาะด้านการศึกษาและการสนับสนุนผลงานด้านนวัตกรรมมีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากย้อนกลับมามองที่ประเทศไทย NIA ก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันทั้งในด้านนวัตกรรมและธุรกิจของไทยให้เติบโตขึ้นไม่แพ้กัน เพราะเรามีเป้าหมายสู่การเป็น Global Innovation City ให้ได้ในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิงจาก :
https://www.newstatesman.com/science-tech/2021/02/how-israel-became-tech-powerhouse
https://innovationisrael.org.il/en/
https://startupgenome.com/ecosystems/tel-aviv
https://www.secrettelaviv.com/magazine/blog/toptens/top-vcs-in-israel
https://www.techaviv.com/unicorns