สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
Startup ไทย ในบทบาทของ NIA
ในขณะนี้แทบจะทุก ๆ วินาที ได้มีสตาร์ทอัพพร้อมเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสตาร์ทอัพก็เป็นธุรกิจเปิดใหม่ธรรมดาที่ไม่ต่างอะไรกับ SMEs (Small and Medium Enterprise – วิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง) แต่ความจริงแล้ว “สตาร์ทอัพ” หมายถึงธุรกิจที่วางแผนมาเพื่อเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งแน่นอนว่าถ้าจะทำให้ธุรกิจออกมาดีเราจำเป็นต้องมีบุคลากร ต้องมีเงินทุนที่เพียงพอ แล้วแหล่งต้นทุนที่สำคัญนี้จะต้องหามาจากไหนกันล่ะ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) มีคำตอบ!
บทบาทของเรา
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้เสนอความเห็นในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับด้านกฎหมายและด้านเศรษฐกิจสังคม รวมถึงการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และแนวทางการขับเคลื่อนการส่งเสริมระบบนิเวศของวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystem)
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดสรรทรัพยากรแก่ผู้ลงทุน Startup เพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจสตาร์ทให้อัพเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการขับเคลื่อนการส่งเสริมระบบนิเวศของวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystem) โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งเงินทุนจากกองทุนพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจ โดยให้มีหน่วยบริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One – Stop Service : OSS) เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางในการส่งเสริมดำเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (Idea Stage) จนถึงเริ่มการดำเนินธุรกิจ (Commercialization) โดยจะมีการบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น จัดหาสถานที่ทำงานร่วมกันพร้อมกับเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ซึ่งกองทุนฯ อาจให้ค่าตอบแทนแก่วิสาหกิจเริ่มต้นที่มีศักยภาพเป็นประจำทุกเดือนในช่วงที่วิสาหกิจเริ่มต้นยังไม่มีรายได้ และเมื่อพร้อมที่จะจัดตั้งเป็นบริษัท กองทุนฯจะเป็นผู้ลงทุนให้ ในขณะที่เราจะได้สิทธิ์ในการเป็นหุ้นส่วนโดยไม่ต้องชำระค่าหุ้นส่วนตามที่ตกลงกัน แถมยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ รวมไปถึงทางกองทุนฯ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถร่วมลงทุนกับทางกองทุนฯ ได้อีกด้วย
ความหวังในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทของประเทศไทยคงไม่ไกลเกินฝัน ในอนาคตเราอาจเห็นธุรกิจสตาร์ทอัพจากประเทศไทยก้าวไปยืนอยู่ในระดับเดียวกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็เป็นได้
.
แหล่งที่มา : http://www.thaigov.go.th