สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

NIA ร่วมงาน “Thailand Open Science for ALL” เปิดโลกนวัตกรรม เปิดรับวิทยาการ ร่วมสร้างอนาคตไทย

News 17 พฤศจิกายน 2568 12

NIA ร่วมงาน “Thailand Open Science for ALL” เปิดโลกนวัตกรรม เปิดรับวิทยาการ ร่วมสร้างอนาคตไทย

 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรม และ ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านการเงินนวัตกรรม ร่วมการประชุม TSRI Policy Advocacy Series ครั้งที่ 5 โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดตัว "Thailand Open Science for ALL" เพื่อผลักดันนโยบายสำคัญการพัฒนาประเทศด้วยระบบ ววน. โดยขับเคลื่อน “Thailand Open Science” ให้เป็นกรอบยุทธศาสตร์ระดับชาติที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของระบบ ววน. เข้าด้วยกัน ภายใต้แนวคิด "เปิดโลกนวัตกรรม เปิดรับวิทยาการ ร่วมสร้างอนาคตไทย" งานวิจัยต้องเดินทางถึงมือประชาชน ความรู้ต้องกลายเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของคนไทยทุกคนได้จริง และพัฒนาระบบ ววน. ของประเทศให้เปิดกว้าง โปร่งใส และมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และนวัตกรรมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568
 
ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า เวทีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทุกคนจะร่วมกันสร้างระบบ ววน. ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด “เปิดโลกนวัตกรรม เปิดรับวิทยาการ ร่วมสร้างอนาคตไทย” โดยขับเคลื่อน Open Science ของประเทศที่ครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้ก้าวข้ามจากระดับแนวคิดสู่การปฏิบัติจริง รวมถึงสร้างสังคมแห่งปัญญา “สกสว. มุ่งผลักดันให้ Open Science เป็นระบบที่เปิดกว้าง โปร่งใส และร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อให้ความรู้จากงานวิจัยเข้าถึงคนทุกระดับ กลายเป็นพลังในการพัฒนาชีวิตและเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น
 
ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร. นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า หลักการของ Open Science คือ 1) ต้องพิจารณาว่าจะเปิดกว้างอย่างไร ประชาชนควรมีสิทธิกำหนดโจทย์และกระบวนการด้วย 2) วิทยาศาสตร์ไม่ควรอยู่ในกลุ่มนักวิจัยเท่านั้น แต่ควรดำเนินการแบบสหวิทยาการ เช่น เอกชนและประชาชนเข้ามาทำ Citizen Researchers และเปิดให้นานาชาติเข้ามาร่วมดำเนินการ 3) Open Journal ต้องให้ประชาชนเข้าถึงผลการวิจัยและองค์ความรู้ 4) การใช้ประโยชน์จากข้อมูล ทำอย่างไรประชาชนถึงเอาไปใช้ได้ ดังนั้นจึงต้องเร่งขับเคลื่อนและเชิญชวนให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันทำงาน เปิดข้อมูลให้กับทุกคน และทุกคนมีสิทธิที่จะใช้ได้
 
ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ในฐานะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า เหตุผลที่ต้องส่งเสริมวิทยาการแบบเปิดมากขึ้น คือ 1) โลกวิทยาการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จึงจำเป็นต้องเผยแพร่ความรู้ให้รวดเร็วและกว้างขวางกว่าเดิม 2) เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การเผยแพร่ความรู้ทำได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงคนจำนวนมาก 3) หลักจริยธรรมสากลการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารถือเป็นหลักการที่ยอมรับกันทั่วโลก 4) ประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความเหลื่อมล้ำ 5) ความร่วมมือระดับโลกของประเทศที่พัฒนาแล้วต้องการข้อมูลจากทั่วโลกเช่นกัน เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งโรคระบาดใหม่ ๆ ซึ่งมักมาจากประเทศกำลังพัฒนา เราจึงต้องเปิดเผยความรู้ให้แพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางและทันท่วงที เพื่อให้เกิดการต่อยอดอย่างมีประสิทธิภาพ ‘วิทยาการแบบเปิด’ จึงเป็นแนวทางสำคัญของโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง
 
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “Open Science in Action: ก้าวสู่อนาคตไทย” ประกอบด้วย คุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและบรรณาธิการบริหาร บริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัด, คุณเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ, ศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ ผู้พัฒนาระบบฐานข้อมูลวารสารไทย, ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ กรรมการ National Al Committee และ ศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) ผู้ร่วมเสวนาต่างมองว่าองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยมีอยู่มากในประเทศไทย โจทย์คือการสร้างความต้องการในการบริโภคข้อมูลวิทยาศาสตร์และวิทยาการแบบเปิด จึงควรมีแพลตฟอร์ม Thailand Open Science for All ที่ทั้งประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน สามารถเข้าถึงข้อมูลงานวิจัยได้ง่ายขึ้น