🌾 ภาวะเศรษฐกิจไทย ยังคงเดินอยู่บนเส้นบาง ๆ แห่งความผันผวน โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งเรื่องต้นทุนการผลิต การส่งออก การเข้าถึงตลาด ไปจนถึงปัญหาแรงงาน ซึ่งดูเหมือนว่าสถานการณ์เหล่านี้จะยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ในเร็ววัน

👩‍🌾 แม้เกษตรกรจะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ คิดเป็น 30% หรือมากกว่า 11 ล้านคน แต่กลับสร้างมูลค่า GDP เพียง 8% เท่านั้น ตัวเลขนี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนาที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร รวมถึงความเหลื่อมล้ำทางภาษีที่ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ในประเทศต้องแบกรับต้นทุนนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญ ต้นทุนจึงถูกผลักลงสู่เกษตรกร และท้ายที่สุดกลายเป็นภาระหนี้สินที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

🚜 แต่เมื่อโลกหมุนสู่ยุค Smart Farming เกษตรกรไทยจำเป็นต้องก้าวทันเทคโนโลยีพร้อมระบบสนับสนุนที่เหมาะสม ดังนั้นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงได้ประกาศนโยบาย Quick Win เป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นการขับเคลื่อนประเทศ โดยหนึ่งมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยคือ โครงการ “โดรนคนละครึ่งพลัส สู่สมาร์ทฟาร์มมิ่ง (Smart Farming)” ที่มีเป้าหมายผลักดันการใช้เทคโนโลยีให้เกิดในพื้นที่จริงของกลุ่มเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น และลดภาระให้เกษตรกร

🤝 ภายใต้โครงการนี้ NIA ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงบริการโดรนได้ง่ายขึ้น พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการสตาร์ตอัปกับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จริง เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ทดลองใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นรูปธรรม ลดต้นทุนด้านการผลิต เพิ่มคุณภาพชีวิต ลดการใช้และการสัมผัสสารเคมี ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังได้นำผลงานนวัตกรรมออกมาทดสอบระบบสู่ตลาดจริงควบคู่กัน

🚁 ภายใต้โครงการนี้ NIA ได้นำ 3 สตาร์ตอัปด้านโดรนเพื่อการเกษตรที่ NIA ให้การสนับสนุนมาร่วมมือกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัทอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย !

• บริษัท ไลลา เอวิเอชั่น จำกัด 
สตาร์ตอัปจากทีมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่เติบโตมาจากโครงการ Startup Thailand League มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตโดรนเองทั้งระบบ พร้อมต่อยอดสู่โดรนสำรวจที่ใช้ระบบประมวลผลภาพดิจิทัล เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของพืช วิเคราะห์โรค และฉีดพ่นสารแบบเฉพาะจุด ช่วยลดต้นทุนการใช้สารเคมี และเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลแปลงเกษตรได้อย่างเห็นผล

• บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด
สตาร์ตอัปหุ่นยนต์สัญชาติไทยที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติ โดยได้ผลิตสินค้าที่หลายคนน่าจะรู้จักอย่าง ‘ไทเกอร์โดรน’ ที่ใช้งานง่ายด้วยชอฟต์แวร์ภาษาไทย เก็บข้อมูลได้ละเอียด ปลอดภัย แม่นยำ มีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบชิ้นส่วน การประกอบ ไปจนถึงการส่งถึงมือผู้ใช้งาน สามารถใช้เพื่อการฉีดพ่นสารเคมี การสำรวจพื้นที่ การสร้างแผนที่มีความแม่นยำ และการติดตามการเติบโต และความผิดปกติต่างๆ ในแปลงปลูก

• บริษัท เกษตรทันใจ จำกัด
ผู้ให้บริการแอปพลิคชัน ‘เกษตรทันใจ’ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ในการใช้งานหลากหลายบริการ ตั้งแต่การสั่งซื้อสินค้าสำหรับการผลิต การจ้างบริการทางการเกษตร โดยในโครงการนี้เกษตรทันใจจะเข้ามาทำหน้าที่รับสมัครเกษตรกรและผู้ให้บริการโดรน เพื่อจับคู่กัน โดยสามารถกำหนดวันเวลาได้ตามสะดวก พร้อมกับระบบหลังบ้านที่ช่วยดูแลรักษาความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน

💸 โครงการนี้ NIA ไม่เพียงเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการและเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนค่าใช้บริการโดรน (ไม่รวมค่าสารพ่น) อัตรา 40 บาท/ไร่ รวมทั้งสิ้น 100,000 ไร่ ในพื้นที่ปลูกข้าวไม่เกิน 30 ไร่/เกษตรกร โดยจะเป็นการชำระให้ผู้ประกอบการโดรนโดยตรง ซึ่งจะเริ่มต้นทดลองในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี

🌱 บทบาทของ NIA จึงเป็นมากกว่าผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่ยังทำหน้าที่เป็น “ผู้เชื่อมระบบนิเวศนวัตกรรม” ที่ผลักดันให้เทคโนโลยีไทยไปสู่ไร่นาอย่างแท้จริง สำหรับเกษตรกรที่สนใจรับการสนับสนุนในโครงการนี้ สามารถอ่านรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ : https://โดรนคนละครึ่ง.mhesi.go.th/ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เกษตรทันใจ” ได้เลย!

อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://drive.google.com/file/d/18sCPNYDPpfm0nrbJcF8_R905tTWbZo-P/view 
https://think.moveforwardparty.org/article/agriculture/4886/ 
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/429479 
https://www.nia.or.th/MHESI 
https://techsauce.co/pr-news/nia-launch-agrowth-accelerate-the-growth-of-deep-tech 
https://www.nia.or.th/frontend/bookshelf/NK57MCoKKKABJ/62f270476303e.pdf 
https://www.kasettunjai.com/