
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

การให้บริการของ NIA

ความเคลื่อนไหวของ NIA

ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่
(Innovation for enhancing quality of life and well-being)
 (1).jpg)
ประเทศไทยได้มีการพัฒนาในหลายมิตินับตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคมที่มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน มิติด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศ อย่างไรก็ตามความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ คือ ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศให้ประชากรมีรายได้สูงขึ้นและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน การนำนวัตกรรมจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นต้น มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมในทุกมิติ จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะกลับมาขยายตัวตามยุทธศาสตร์ชาติ และช่วยให้ประชาชนในสังคมมีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคง มีที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เกิดการสร้างจุดเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจทั้งการคมนาคม การผลิต การค้า การลงทุน ผ่านการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน และทุนอื่น ๆ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำด้านต่าง ๆ และประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน
.jpg)
การเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น สถาบันครอบครัว ภาคธุรกิจ องค์กรในชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ให้สามารถสร้างความร่วมมือกันในการสร้างนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน ไม่ว่าจะเป็น สภาพความเป็นอยู่ การจ้างงาน สวัสดิการ หรือ กระบวนการยุติธรรม ซึ่งแนวทางการบูรณาการเหล่านี้ล้วนทำให้การพัฒนาคุณภาพชีวิต จำเป็นต้องมองถึงปัจจัยขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ ทั้งการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีความปลอดภัย การเข้าถึงการรักษาพยาบาลพร้อมทั้งการได้รับความรู้ด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง สถานที่ส่งเสริมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ตลอดจนการสร้างอาชีพที่มั่นคงเพื่อให้สามารถนำไปเลี้ยงดูครอบครัวและเก็บออมได้ ซึ่งผลที่ตามมา คือ ภาวะความเป็นอยู่ที่ดีรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ และด้านสังคม
ในปี 2569 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จึงได้เปิดรับสมัครผู้ที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมพร้อมกับความร่วมมือของคนในพื้นที่ ภายใต้ โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน ประจำปี 2569 ในการนำไปสู่การสร้างสรรค์และพัฒนาเมืองให้มีความน่าอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวของชุมชนเมืองในหัวข้อ นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ (Innovation for enhancing quality of life and well-being) เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่สำหรับผู้ที่มีนวัตกรรมพร้อมใช้ ให้เกิดการสร้างสรรค์แนวทางการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในสังคมให้ครอบคลุม และทั่วถึง โดยแบ่งเป็น 5 หัวย่อย ได้แก่
การศึกษาและการเรียนรู้ เริ่มต้นตั้งแต่ในสถาบันครอบครัวตั้งแต่เรายังเด็ก จนกระทั่งเข้าสู่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่เพียงแต่การเรียนวิชาองค์ความรู้ที่จำเป็น แต่ยังรวมไปถึงการฝึกทักษะในการอยู่ร่วมกันในสังคม ตลอดจนการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่สามารถต่อยอดเพื่อปรับเข้าสู่โลกของการทำงานในอนาคต ดังนั้น การศึกษาและการเรียนรู้จึงไม่หยุดเมื่อตอนสำเร็จการศึกษาแล้วเท่านั้น แต่เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตด้วยนวัตกรรมที่เข้ามาเอื้ออำนวยให้เกิดการส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนาทักษะรอบด้าน
ตัวอย่างโครงการ
MOONIC VR ระบบความเป็นจริงเสมือน (VR) เพื่อพัฒนาทักษะการเข้าสังคมของเด็กกลุ่มอาการออทิสซึม
ความสำคัญของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประกอบกับการขยายตัวของสังคมเมืองที่มาพร้อมกับความเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การส่ง Link ปลอมจากมิจฉาชีพ การปลอมแปลงตัวตนผ่านวิดีโอคอล เป็นต้น ทำให้การส่งเสริมและป้องกันอาชญากรรมให้เกิดความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อสังคมเมืองและชุมชนในปัจจุบัน
ตัวอย่างโครงการ

การเข้าถึงบริการและข้อมูลด้านสุขภาพถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าถึงได้อย่างเทียมและทั่วถึง ทั้งในด้านของสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจที่ต้องดูแลให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะสุขภาพที่ดีจะเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ในด้านอื่น ๆ ต่อไป
ตัวอย่างโครงการ

ในสังคมเมืองและชุมชนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เส้นทางการดำเนินอาชีพเริ่มมีความหลากหลาย และมีอาชีพใหม่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทุกคนต้องพัฒนาทักษะของตนเองให้พร้อมกับความต้องการของตลาดแรงงานอยู่เสมอ ตลอดจนต้องเพิ่มการเข้าถึงโอกาสในการทำงานให้มีมากเพิ่มขึ้น การส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพจึงไม่ได้เป็นเพียงแต่การส่งเสริมการพัฒนาระดับบุคคล แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าด้วยทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
ตัวอย่างโครงการ

“ศิลปะ” นอกจากความสวยงามแล้ว ยังสามารถช่วยจรรโลงจิตใจของคนในสังคมเมืองและชุมชน พร้อมทั้งจุดประกายให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ในการนำศิลปะเข้ามายกระดับเศรษฐกิจของเมืองและชุมชน ซึ่งศิลปะ รวมถึง จิตรกรรม (ภาพเขียน) ประติมากรรม (งานปั้น) สถาปัตยกรรม (งานก่อสร้าง) ภาพพิมพ์ (สร้างสรรค์บนแม่พิมพ์) สื่อผสม (จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์) ภาพถ่าย (การถ่ายภาพ) วรรณกรรม (บทประพันธ์) ดุริยางคศิลป์ หรือ ดนตรี (การขับร้อง หรือการบรรเลง) และนาฏศิลป์ (การร่ายรำ หรือการละคร)
ตัวอย่างโครงการ

บทความโดย
ศศิริลักษณ์ ทิมจันทร์
นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายสนับสนุนการเงินนวัตกรรมรายพื้นที่
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ขอขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูลจาก