“ฟองเต้าหู้” วัตถุดิบจากถั่วเหลืองที่หลายคนคุ้นเคย กำลังถูกมองในมุมใหม่ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์เมนูโปรตีนทางเลือกเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจการดูแลตัวเอง

เมื่อพูดถึงเทรนด์ที่กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหาร ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญกับ “อาหารที่ดีต่อสุขภาพ”มากพอ ๆ กับ “อาหารที่อร่อย”  จากผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีแนวโน้มใช้จ่ายกับอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นกว่า 33% ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

🥛 ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารจำนวนมากจึงเริ่มหันมาใส่ใจการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพ และหนึ่งในนั้นคือ ฟองฟอง (FongFong) ผลิตภัณฑ์จากฟองเต้าหู้และน้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้เจ้าแรกของไทย ที่การันตีความอร่อยหอม เข้มข้นจาก บริษัท โง้ว เจง ง้วน จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟองเต้าหู้มายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480

📌 บริษัท โง้ว เจง ง้วน จำกัด เริ่มต้นจากการจำหน่ายฟองเต้าหู้แห้งหลากหลายรูปแบบ ก่อนจะต่อยอดแนวคิดในการส่งต่อคุณค่าของ “ฟองเต้าหู้” ให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำเต้าหู้ที่ผสมฟองเต้าหู้เข้าไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำเต้าหู้สดจำเป็นต้องจัดส่งทุกเช้า ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการเก็บรักษา ทายาทรุ่นที่ 3 จึงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับกระบวนการผลิต ยืดอายุสินค้าให้สามารถบริโภคได้นานขึ้น 30 วัน โดยไม่ต้องใช้สารกันเสีย แต่ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-6 องศาเซลเซียส  เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับการดื่มเป็นประจำ  

แต่ก็ไม่ได้มีแค่น้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้เท่านั้นที่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ เพราะฟองฟองยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่พร้อมให้ผู้บริโภคใช้ฟองเต้าหู้ประกอบอาหารได้ทุกวัน เช่น ฟองเต้าหู้สดในรูปแบบแผ่น เส้น และแท่ง ซึ่งจะใช้การแช่แข็งแบบ IQF ที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา จึงสามารถนำไปต้ม ผัด ยำ แกง กลายเป็นสารพัดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพให้ทานทั้งปีโดยไม่รู้สึกเบื่อ

นอกจากประโยชน์ทางด้านโภชนาการ ฟองฟองยังมีชั้นเชิงของการทำธุรกิจให้เหนือกว่าคู่แข่งด้วยการยึดมั่นในเทรนด์เกี่ยวกับความยั่งยืน ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ใส่ใจตั้งแต่ต้นทาง อย่างเช่น เลือกใช้วัตถุดิบที่ปลูกแบบไม่ใส่สารเคมี ไปจนถึงการออกแบบกระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงาน การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิล และมุ่งลดการใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด จึงถือได้ว่าฟองฟองเป็นเสมือนตัวแทนแห่งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในด้านของผู้บริโภค และการทำธุรกิจที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

โดย ฟองฟอง เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NIA ในโครงการ Mandatory Innovation กลไกนวัตกรรมดี...ไม่มีดอกเบี้ย ปีงบประมาณ 2568 อีกทั้งยังเข้าร่วมหลักสูตร GSB STEP IN Innovation Network ที่ช่วยเพิ่มความรู้ในการใช้ BCG Model และยังเป็น 1 ใน 9 ผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหารที่ได้รับเลือกให้ไปจัดแสดงที่บูธของ NIA ภายในงานมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวัตถุดิบอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำของเอเชีย หรือ Food Ingredients Asia Thailand 2025 เมื่อวันที่ 17 - 19 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา 

ซึ่งมหกรรม Food Ingredients Asia Thailand 2025 เป็นมหกรรมที่ถูกจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ ส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจ และเชื่อมโยงโอกาสของอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เติบโตไปสู่ตลาดสากล แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยที่สามารถผสมผสานระหว่างอาหารดั้งเดิมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

ทุกวันนี้อุตสาหกรรมอาหารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ “ฟองฟอง” คือตัวอย่างของผู้ประกอบการที่พร้อมเติบโตไปสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืน 💚 

อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://www.nia.or.th/Food-Ingredients-Asia-Thailand-2025 
https://www.fongfong-tryme.com/TH/home.html#products 
https://www.dailynews.co.th/news/4447888/ 
https://www.nxpo.or.th/th/ข้อเสนอการขับเคลื่อนอุ/  
https://bit.ly/47rOCEY