สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

NIA ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Future of Living”

News 15 ธันวาคม 2566 2,135

NIA ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Future of Living” เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยของ Dr. Peter Ylen, Scientist and Foresight and Data Economy Lead จาก VTT Technical Research Centre of Finland เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐฟินแลนด์ ตลอดจนต่อยอดการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทางด้านการมองอนาคตศาสตร์ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

Future of Living_1.jpg

งานประชุมสัมมนา ภายใต้หัวข้อ “Future of Living” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 – 16.30 น. ณ อาคารอุทยานนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โดยได้รับเกียรติจาก H.E. Jyri Järviaho, Ambassador of Finland และ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวเปิดกิจกรรม การบรรยายแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย Keynote Address หัวข้อ “Future and Smart Cities” บรรยายโดย Dr. Peter Ylen, Scientist and Foresight and Data Economy Lead จาก VTT Technical Research Centre of Finland และ Panel Discussion หัวข้อ “Smart Living” บรรยายโดย Dr. Peter Ylen, Scientist and Foresight and Data Economy Lead จาก VTT Technical Research Centre of Finland และคุณสมพัตสร บุณยรัตพันธุ์ รองผู้อำนวยการอาวุโส จาก บริษัท เนบิวลา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดร.นน อัครประเสริฐกุล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Smart City จาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และ ดร.ชัยธร ลิมาภรณ์วณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธ์ศาสตร์นวัตกรรม NIA เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
จากการแลกเปลี่ยนและหารือ เน้นเรื่องการให้ความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย ซึ่งเกิดข้อคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาและปรับตัวในการใช้ชีวิตของคนในเมืองได้อย่างดี เช่น การลงทุนด้านงานวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมขึ้นทดแทนการใช้พสาสติก การศึกษาสภาพแวดล้อมของชุมชนเมือง และพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ อย่างไรก็ดี ประชาชนยังคงมองข้ามผลกระทบบางประการที่เกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อาทิ
 
• การสร้างความตระหนักและรับรู้ของประชาชน: การสร้างความตระหนักและรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นมีความสำคัญ ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องมีการสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาสิ่งแวดล้อม การลดใช้พลาสติก และการคัดแยกขยะ
 
• การตอบสนองต่อปัญหาโลกร้อน: การหารือและย้ำความสำคัญของการตอบสนองต่อสภาวะโลกร้อน โดยการลดการใช้พลาสติก การใช้งานทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตเพื่อลดผลกระทบที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม
 
• ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การที่ประชาชนตระหนักถึงปัญหาและช่วยกันรักษ์โลกมีผลต่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลดการใช้พลาสติก, การปลูกต้นไม้, และการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกระดับ
 
การที่ประชาชนมีการรับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้าง Smart Living ไม่เพียงทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและเป็นอยู่ได้ในอนาคต