🎯 “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” สโลแกนสั้นๆ สุดคุ้นหูคนไทย ที่ทำให้หลายคนรู้สึกฮึกเหิม และพร้อมทุ่มเทแรงเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย

นอกจากการขยายบทบาทของ NIA สู่การเป็น Focal Conductor หรือผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม ยังมีการตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมไทย เตรียมความพร้อมสำหรับการส่งเสริมผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม Innovation-Based Enterprises (IBEs) ให้มีโอกาสได้โชว์ศักยภาพ ซึ่งเป้าหมายแต่ละข้อจะมีอะไร และการทำงานหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้าง ตามไปดูกัน!

✍️ จุดสตาร์ทต้องเริ่มจากการ “สร้างนวัตกร และ IBEs ผ่าน NIA Academy” แพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ที่เตรียมไว้เพื่อพัฒนาคน มีหลักสูตรให้เข้าเรียนได้ตั้งแต่กลุ่มเยาวชนไปจนถึงกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้บริหารและผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ เป็นคอร์สติวเข้มเวอร์ชันอัปเดตเนื้อหา เพื่อให้เกิดผู้นำที่สามารถร่วมขบคิดนวัตกรรมเชิงนโยบายแก้ปัญหาไปด้วยกันได้ 

🤝 เสกพื้นที่ให้เกิดความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ตามเป้าหมาย “สร้างและเชื่อมโยงแพลตฟอร์มพัฒนา IBEs” ที่ NIA จะเป็นสื่อกลางประสานระหว่างผู้เล่นสำคัญ ตั้งแต่ภาครัฐ เอกชน นักลงทุน สถาบันการศึกษา จับมือกันสร้างช่องทางเพื่อการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของ IBEs บนแพลตฟอร์มที่สามารถทำได้ทั้งในเชิงต่อยอดหรือพัฒนาขึ้นมาใหม่

📃 ต่อมาคือเป้าหมาย “ปรับบทบาท NIA ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม” ที่จะทำงานเชิงรุกแก้ปมปัญหาที่พบเจอ ทั้งด้านนโยบาย ซึ่งต้องปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการทำธุรกิจ ให้ทุนสนับสนุนที่เปิดกว้างไปถึงอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในแต่ละภูมิภาค พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับแหล่งทุนอื่นๆ สำคัญที่สุดคือการผลักดันนวัตกรรมให้เข้าไปสู่หัวใจคนไทย ผ่านการสื่อสารให้เห็นว่านวัตกรรมไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาปากท้อง สังคม และช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้

👨‍🔧 นอกจากนั้นการจะทำให้นวัตกรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการ “สร้างระบบนวัตกรรมไทย และ Innovation Ecosystem ให้เข้มแข็ง” เป้าหมายนี้จะเน้นเปิดสนามให้เกิดการทำงานบน Area and Regional Connect (ARC) ที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ขยายผลธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงการพัฒนาระบบฐานข้อมูล นำไปสู่การออกแบบข้อเสนอ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างพื้นที่ให้ทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมจับมือสนับสนุนสตาร์ทอัพตามโมเดลจาก Station F 

🥇เส้นชัยสุดท้ายคือการ "ยกระดับดัชนีนวัตกรรมไทยในดัชนีนวัตกรรมโลก" ที่ต้องเริ่มจากการสื่อสารถึงความสำคัญเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของประเทศ จนนำไปสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ โดยจะร่วมหารือ แลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในแต่ละปัจจัย และต้องมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลดัชนีนวัตกรรมให้แม่นยำเพื่อส่งคะแนนได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

ทุกวันนี้จะเห็นว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องส่งเสริมให้เกิดการปรับตัวไปสู่การเป็นผู้ประกอบฐานนวัตกรรม (IBEs) โดยต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งความรู้ เงินทุน โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ 1 ใน 30 ของประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมโลกภายในปี 2573

อ้างอิงข้อมูลจาก : 
https://www.nia.or.th/the-next-chapter-of-NIA 
https://techsauce.co/news/the-next-chapter-of-nia 
https://www.everydaymarketing.co/business-and-marketing-case-study/education/7-strategy-nia-academy/ 
https://workpointtoday.com/nia-dr-krichpaka-promo/