สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

นวัตกรรมเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณ (Innovation for Pre & Post Retirement Preparation)

25 กันยายน 2567 2,542

นวัตกรรมเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณ (Innovation for Pre & Post Retirement Preparation)

นวัตกรรมเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณ (Innovation for Pre & Post Retirement Preparation)

การเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) เป็นคำที่เราได้ยินกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ซึ่งขณะนั้นมีประชากรไทยที่อายุเกิน 60 ปี ราวร้อยละ 10 แต่ผ่านไปไม่ถึง 20 ปี ขณะนี้ ประเทศไทยได้เข้าสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว (Aged Society) นั่นคือ ประชากรมากกว่าร้อยละ 20 เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2576 หรืออีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) โดยประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 28 หรือมากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด จากสถิติและการคาดการณ์นี้ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้สูงวัยจะเต็มเมืองในอีกไม่ช้า การที่ประชากรกลุ่มใหญ่เป็นวัยที่ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว และยังมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยสูงกว่าวัยอื่น ๆ นับว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับประเทศไทยในการจัดสรรการดูแลให้ทั่วถึง หากต้องการเข้าสู่วัยเกษียณโดยไม่ต้องให้ลูกหลานเป็นห่วง หรือต้องรอคอยสวัสดิการจากภาครัฐ ก็จำเป็นต้องเริ่มวางแผนและปรับตัวตั้งแต่ในวันที่หน้าที่การงานยังมั่นคงและยังคงมีรายได้จากการทำงานอยู่ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมก่อนวัยเกษียณและการเตรียมความสำหรับหลังวัยเกษียณ ต่างเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญทั้งคู่ เพื่อให้เกิดการเกษียณอย่างไร้รอยต่อในชีวิต

 

 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมดังกล่าว จึงได้ดำเนินงานภายใต้โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน ประจำปี 2568 (City & Community Innovation Challenge 2025) เพื่อเปิดรับนวัตกรรมเพื่อสังคมในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณ” (Innovation for Pre & Post Retirement Preparation) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็น วัยก่อนเกษียณ ในช่วงอายุ 40-60 ปี และวัยหลังเกษียณ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อย่อยที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

 

1. นวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพทางกายเชิงป้องกัน (Preventive Medicine for Physical Health)

NIA มองหานวัตกรรมเพื่อการรับมือโรคภัยที่มาตามวัย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคกระดูกและข้อ โรคจอตาเสื่อม ฯลฯ โดยมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจเช็คสุขภาพ การประเมินความเสี่ยง การเสริมหรือควบคุมอาหาร การตรวจรักษา รวมถึงการนำเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกลมาปรับใช้ เพื่อลดระยะเวลาในการพบแพทย์และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม

ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพทางกายเชิงป้องกันที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่น

  • นวัตกรรม DR.ASA: ระบบการจัดการข้อมูลทางการแพทย์สำหรับการเเพทย์ระดับปฐมภูมิ

 
  • นวัตกรรม Healthy and Me: แพลตฟอร์มลดน้ำหนักออนไลน์เฉพาะบุคคลด้วยเอไอ
 
  • นวัตกรรม Visulize: ซอฟต์แวร์ตรวจคัดกรองความผิดปกติของจอประสาทตา
  

2. นวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพทางจิตใจและการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ (Mental Health Care and Emotional Wellness)

วัยก่อนและหลังเกษียณเป็นอีกกลุ่มที่อาจต้องเผชิญปัญหาด้านสุขภาพทางจิตใจและการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเครียดจากการทำงานหรือความเป็นห่วงลูกหลาน และปัจจัยภายในอย่างการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (วัยทอง) รวมไปถึงความรู้สึกไร้คุณค่าจากการเกษียณอายุงานหรือการอยู่ตามลำพัง โดยลูกหลานอาจจะไม่ได้มีเวลาดูแลอย่างใกล้ชิด เราจึงต้องการนวัตกรรมเพื่อช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้าสู่วัยสูงอายุด้วยจิตใจที่มั่นคง ยอมรับในความเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับตัวได้
 
ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพทางจิตใจและการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่น 
  •  นวัตกรรม Botnoi: สมาร์ทแชทบอทสำหรับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต
BOTNOI
ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพทางจิตใจและการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ในต่างประเทศ เช่น
  • นวัตกรรม Gennev: คลินิกวัยทองออนไลน์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ ของวัยทองผ่านวิดีโอคอล
 Gennev
ขอบคุณภาพและแหล่งข้อมูลจาก https://www.gennev.com/ 
 
 

3. นวัตกรรมเพื่อกิจกรรมทางสังคมและโอกาสในการทำงาน (Social Activity and Work Opportunity)

การเปิดช่องทางให้วัยก่อนและหลังเกษียณได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมกลุ่ม งานจิตอาสา งานเสริมรายได้ กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมด้านการศึกษา และการเป็นผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญา เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รู้สึกถึงคุณค่าของตัวเอง ได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนทั้งในวัยเดียวกันและต่างวัย รวมไปถึงการมีโอกาสในการทำงานใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับความสามารถและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
 
ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการมีกิจกรรมทางสังคมและโอกาสในการทำงาน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่น 
  • นวัตกรรม ยังแฮปปี้: ระบบเชื่อมโยงบริการผู้สูงอายุให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและพึ่งพาตัวเองได้
ยังแฮปปี้
 
อีกทั้ง ยังมีตัวอย่างนวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น 
  • นวัตกรรม Hire.Seniors: เว็บไซต์จ้างงานในประเทศมาเลเซีย เพื่อจ้างงานกลุ่มคนระดับ senior หรือคนที่เกษียณอายุแล้ว โดยเน้นงานให้คำปรึกษาตามความถนัดของคนสูงวัย สำหรับธุรกิจที่ต้องการคำแนะนำ
ขอบคุณภาพและแหล่งข้อมูลจาก https://hireseniors.my/ 
 
  • นวัตกรรม Senior Plane: เว็บไซต์รวบรวมคอร์สเรียนฟรี ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการจัดชั้นเรียนสำหรับผู้สูงวัยทั้งแบบ on-site และ online
Senior Plane
ขอบคุณภาพและแหล่งข้อมูลจาก https://seniorplanet.org/ 
 
 

4. นวัตกรรมเพื่อการดูแลคนในครอบครัว (Family Caregiver)

วัยก่อนเกษียณหลายคนกำลังตกอยู่ในสถานะ “Sandwich-Generation” ที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่วัยชรา และดูแลลูกหลานที่กำลังเติบโต โดยระหว่างนี้ก็ยังเป็นเสาหลักครอบครัวในการทำงานหารายได้ไปด้วย นับเป็นหน้าที่อันหนักหน่วง ที่ทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน ทาง NIA ต้องการสนับสนุนให้มีนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาความกังวลในการดูแลคนที่รัก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพะวงถึงคนข้างหลังเหล่านี้
 
ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการดูแลคนในครอบครัวที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่น 
  • นวัตกรรม จอยไรด์: ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น
 จอยไรด์
  • นวัตกรรม Go Mamma: แอปพลิเคชันบริการรถรับส่งสำหรับผู้สูงอายุ
Go Mamma
 
  • นวัตกรรม VR Care Giver Training: ระบบฝึกทักษะการดูแลผู้สูงอายุติดเตียงแบบเสมือนจริง

VR Care Giver Training

 

5. นวัตกรรมเพื่อการวางแผนและการจัดการชีวิตหลังเกษียณ (Life Planning for Retirement)

วัยหลังเกษียณเป็นวัยที่มีค่าใช้จ่ายหลายประการ สวนทางกับรายได้ที่ลดลงเมื่อเกษียณอายุจากการทำงาน จึงควรมีการเตรียมความพร้อมทางการเงินตั้งแต่ก่อนเกษียณ
เช่น การออมเงิน การประกันภัย การจัดการทรัพย์สินมรดก รวมไปถึงการวางแผนสำหรับวาระสุดท้าย นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมปรับตัวต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพื่อการเข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมั่นคง ปลอดภัย และไร้กังวลในทุก ๆ ด้าน
 
ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อการวางแผนและการจัดการชีวิตหลังเกษียณที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่น 
  • นวัตกรรม Noburo Grow: ระบบด้านการเงิน การงาน และการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
Noburo Grow
 
  • นวัตกรรม Share Souls: แพลตฟอร์มอนุสรณ์ออนไลน์ 
 Share Souls
 
นอกจากนี้ ในประเทศอังกฤษยังมีตัวอย่างนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง
 
  • นวัตกรรม MyWishes: แพลตฟอร์มฟรีเพื่อให้บริการในการเขียนพินัยกรรม พันธสัญญาสุดท้าย การจัดการข้อมูลดิจิทัล และการวางแผนงานศพ 
 MyWishes
ขอบคุณภาพและแหล่งข้อมูลจาก https://www.mywishes.co.uk/ 
 
 
  • นวัตกรรม Phonely: แอปพลิเคชันเพื่อป้องกันกลโกงทางโทรศัพท์ 
Phonely
ขอบคุณภาพและแหล่งข้อมูลจาก https://www.phonely.co.uk/ 
 
 
ในแต่ละหัวข้อย่อย ต่างก็มีตัวอย่างนวัตกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถหยิบยกไปเป็นไอเดียในการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดเพื่อตอบโจทย์การเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณในบริบทปัจจุบันของสังคมไทยได้ สำหรับผู้ที่สนใจร่วมเสนอโครงการในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนและหลังวัยเกษียณ” (Innovation for Pre & Post Retirement Preparation) วงเงินสนับสนุนสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อโครงการ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม https://social.nia.or.th/2024/city68/ สมัครยื่นข้อเสนอโครงการได้ที่ https://mis.nia.or.th/ ภายในวันที่ 11 ตุลาคม 2567
 
ขอขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูลจาก
 
 
บทความโดย
หัฏฐฌา กองจิว (เอย)
นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)